วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

มาทำความรู้จักปั๊มน้ำด้วยกันจุดดีของปั๊มน้ำกัน


ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างหรือเครื่องใช้ไม้สอยไฟฟ้าอีกวิธหนึ่งที่ใช้มาก ในอุตสาหกรรมและ ตามบ้านเรือน โดยล้วนๆตามที่พักอาศัยซึ่งเป็นอาคารชุด ตามอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือในบางพื้นที่ที่ต้องการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้
ดังนั้นการรู้จักมักจี่ซื้อ รู้จักวิธีใช้และการติดตั้ง “ปั๊มน้ำ” อย่างถูกวิธีจะไม่ก่อให้ เกิดการรั่วไหลและสิ้นเปลืองพลังงานและเป็นการใช้ไฟฟ้าและใช้น้ำอย่างมี ศักยภาพ และราคาปั๊มน้ำที่ถูกลงมาก

ประเภทของปั๊มน้ำ (ตามลักษณะการทำงาน)
ปั๊มแบบใบพัด
ปั๊มน้ำประเภทนี้ภายในเรือนปั๊ม จะมีใบพัด ประจำการสร้างความดัน จากการหมุนที่ความเร็วรอบสูงและแรงดันทำให้ น้ำไหลไปตามท่อที่ต่อไว้ได้ นิยมนำมาใช้ใน อุตสาหกรรมและตามที่อยู่อาศัยทั่วไป เพราะ การไหลของนาจะต่อเนื่องสม่ำเสมอ

เครื่องปั๊มน้ำแบบลูกสูบ
ปั้มน้ำวิธานี้เรือนปั๊มเป็นกระบอกสูบ ภายในจะมีลูกสูบ ทำหน้าที่สร้างความดันจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ทำให้ขนาดของ กระบอกสูบลดลงเกิดเป็นความดันเพื่อขับดันนาให้ไหลไปได้ แต่การไหลของนา จะเป็นช่วงๆ ตามจังหวะการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ส่วนใหญ่นำไปใช่ในงาน ที่ต้องการความดันสูง

การทำงานของปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้ภายในบ้านเป็นชนิดที่มี ใบพัดภายในหัวปั๊มหรือเรือนปั๊ม  ใบพัดเป็นตัวสร้างความดันเพื่อ ขับดันให้น้ำไหลไปได้โดยมีชุดสวิตซ์ความ ดันเป็นวัสดุควบคุมการทำงานของ ปั๊มน้ำ ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ จะต่อโดยตรงกับจุดใช้น้ำ เช่นฝักบัว ก๊อกน้ำ ชักโครก เป็นต้น ต่อจากนั้นเมื่อเราเปิดฝักบัวหรือก๊อกน้ำ น้ำจะ ไหลออกจากท่อหรือระบบทำให้ความดัน ภายในท่อลดลงส่งผลให้เกิดการดัดต่อของ สวิตซ์ความดัน ปั๊มน้ำจึงทำงาน
การเปิดก๊อกน้ำมีผลต่อการทำงาน ของปั๊มน้ำเป็นอย่างมาก ถ้าเราเปิดก๊อก น้ำเพียง ตัว และน้ำไหลไม่แรงมากแล้ว การทำนจะไม่ตัดต่อบ่อยเพราะยังมี ความตันเหลืออยู่ในเส้นท่อมาก แต่ถ้าเรา เปิดก๊อกให้น้ำไหลแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่าให้ความดันเสียเร็วขึ้นปั๊มน้ำก็จะ ท่างานบ่อยมากขึ้น ตังนั้นเพื่อเป็นการ ออมอดน้ำและไฟฟ้าควรเปิดก๊อกน้ำใช้ตามความจำเป็น แต่ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องเปิดใช้น้ำหลายจุด พร้อมกัน เช่น ใช้ฝักบัวอาบน้ำพร้อมกับล้างจานและรดน้ำต้นไม้ จะทำให้ปั๊มน้ำทำงานทุกเวลา ดังนั้นการใช้น้ำในแต่ละจุดจึงไม่ควร เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ทุกเมื่อเชื่อวัน

เครื่องไม้เครื่องมือช่างพื้นฐานสำหรับงานไม้

เลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องไม้เครื่องมือช่างพื้นฐานสำหรับงานไม้ ที่ช่างเริ่มหัดหรือช่างผู้ชำนาญทุกคนควรมี เพราะสามารถใช้งานง่ายและมากมาย เช่น การตัดตามแนวขวางของไม้ ตัดซอยไม้ หรือ การตัดกึ่งกลางแผ่นของไม้

เลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องมือสำหรับช่างไม้ เช่น ช่างเฟอร์นิเจอร์ที่ช่างทุกคนควรมีติดตัวไว้ เนื่องด้วยเป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดไม้ได้หลายชนิด หลายลักษณะงาน ทำให้งานไม้เป็น เรื่องไม่ซับซ้อนไปเลย ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น เลื่อยวงเดือนมีหลายจำพวกหลายขนาดให้เลือกใช้ โดย ทั่วไปแล้วเลื่อยวงเดือนมีหลายแบบ สุดแล้วแต่บริษัทผู้ผลิต แต่เค้าโครงก็จะเหมือนๆกัน  มีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน และมีราคาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักหลายพันเลยก็มี เลื่อยวงเดือนเป็นทีนิยมมากของช่างไม้เนื่องจากสามารถตัดท่อนไม้ได้หลากหลายรูปแบบ สามารถตัดมุม90 องศา หรือ 45องศาได้  เลื่อยวงเดือนเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายแต่ก็ส่งเสียงดังและยังมีฝุ่นละอองจากไม้อีก นับว่าเป็นผล ร้ายอย่างมากกับผู้ใช้งาน

เครื่องมือช่างที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเครื่องมือช่างพื้นฐานเท่านั้น ราคาเครื่องมือช่างปัจจุบันนี้ก็ไม่แพงมากราคาหลักร้อย  หลักพัน ก็สามารถมีเครื่องมือช่างคู่ใจได้แล้ว แต่ควรเลือกใช้ให้ เหมาะสมกับที่งานที่ได้รับ เครื่องมือช่างมีหลายประเภท หลายชนิด หลายลักษณะการใช้งาน แล้วแต่ช่างว่าสมควรที่จะใช้เครื่องมือแบบ ไหนที่เหมาะสมกับงาน งานแต่ละชนิดก็จะใช้เครื่องมือช่างที่แตกต่าง กันออกไป สำหรับช่างเริ่มหัดควรเลือกใช้เครื่องมือที่ถูกกับลักษณะของงาน เพื่อช่วยทุ่นกำลังให้งานทำงาน

เครื่องมือช่างเป็น สิ่งที่ช่วยทุ่นกำลังให้กับช่าง และช่วยทำให้ช่างปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว

เครื่องมือช่างประจำบ้าน
เครื่องมือช่าง คือ วัสดุอุปกรณ์ที่ทำด้วยโลหะ มีหลายชนิด หลายแบบ ใช้ได้หลายลักษณะงาน แล้วแต่งานที่ ต้องการทำ

เลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องมือช่างขั้นต้นสำหรับงานไม้ มีประเภทเหมือนเลื่อยองศาแต่ไม่มีแท่น สามารถทำได้หลากหลายลักษณะ
เลื่อยวงเดือนองศา เป็นเครื่องที่นิยมไว้เก็บชิ้นงานของช่าง สามารถกำหนดมุมองศาได้อย่างตรงเป๊ะ เมื่อตัดไม้ และต่อไม้เข้าด้วยกันอย่างเรียบเนียน

เครื่องมือช่างเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับช่างๆทุกคน เพราะเป็นเครื่องมือเลี้ยงชีพของช่างก็ว่าได้ เครื่อง มือช่างมีหลายชนิด หลายจำพวก
เครื่องมือช่าง คือ วัสดุอุปกรณ์ที่ช่างเริ่มหัดควรมีไว้ประจำกาย เพราะ เป็นเครื่องมือที่ใช้ทำมาหากินของช่าง
ความจำเป็นของเครื่องมือช่าง

เลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องมือสำหรับช่างไม้ เช่น ช่างเฟอร์นิเจอร์ที่ช่างใครต่อใครควร มีประจำตัวไว้ เนื่องมาจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดไม้ได้หลายชนิด หลายลักษณะงาน ทำให้งานไม้ เป็นเรื่องไม่ยุ่งยากไปเลย ทำให้งานเสร็จรวดเร็วขึ้น เลื่อยวงเดือนมีหลายจำพวกหลายขนาดให้เลือกใช้  โดยทั่วไปแล้วเลื่อยวงเดือนมีหลายแบบอย่าง สุดแต่บริษัทผู้ผลิต แต่รูปทรงก็จะคล้ายกัน  มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และมีราคาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักหลายพันเลยก็มี

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

เครื่องมือช่างไม้สอยภายในบ้าน

เครื่องมือช่าง เป็นวัสดุอุปกรณ์สำหรับช่วยทุ่นเเรงในการปฏิบัติงานเเละกระทำวัตถุโดย มีเพิ่มกำลังหรือขีดจำกัดความชำนิชำนาญของมนุษย์ ทำให้มีความสะดวกเเละช่วยให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้น ต่อจากนั้นมนุษย์ได้ดัดเเปลงเครื่องมือต่างๆเหล่านี้เป็นเครื่องมือกลทางไฟฟ้าที่มีกำลังมากขึ้นหลายเท่าจากเครื่องมือธรรมดา ตัวอย่างเช่น สว่านไฟฟ้า เครื่องเจียร เครื่องตัด เลื่อยวงเดือน

ในธุรกิจอุตสาหกรรม หรือโรงงานแผนกวิชาช่างอุตสาหกรรม มีเครื่องมือช่างขนาดเล็กหลายแบบ ซึ่งแตกต่างกันทั้งลักษณะ รูปร่าง และการใช้งาน สิ่งจำเป็นในการทำงานช่างคือ เครื่องมือนั่นเอง แม้ว่าช่างจะมีความสามารถดีเพียงใด แต่ถ้าเครื่องมือไม่พร้อมที่จะทำงานก็เชื่อว่า วิธีการการทำงานช่าง การผลิต การซ่อมแซม การบำรุงรักษา หรือการประกอบติดตั้งได้ผลงานดีไม่ได้ ดังนั้นควรจะรู้จักการใช้เครื่องมือ การเก็บบำรุงรักษาที่ถูกวิธี โดยเน้นให้เหมาะสมกับประเภทของงาน เพราะหากนำไปใช้ผิดหมวด ขาดความรอบคอบ และไม่ทราบถึงคุณสมบัติการใช้งานเฉพาะตัวของเครื่องมือ จะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ฉะนั้นควรทราบแนวทางปฏิบัติที่จำเป็น เพื่อเตรียมพร้อมในการลงมือทำงานต่อจากนั้น

ลักษณะของงานช่าง
งานช่าง  คือ  งานที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง  ซ่อมแซม  บำรุงรักษา  หรือดัดแปลงวัสดุหรือเศษวัตถุให้เป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทำให้เครื่องใช้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น  และช่วยประหยัดรายจ่ายภายในบ้านได้อีกด้วย

เป็นที่ตกลงกันโดยทั่วไปว่าเครื่องมือ เป็นวัตถุสำคัญอย่างหนึ่งในการปฏิบัติงานช่าง  เพราะเครื่องมือเป็นสิ่งที่ ช่วยผ่อนแรงในการทำงาน  และช่วยให้งานสำเร็จตามแผนการ งานที่ออกมาดี  สวยงาม  เป็นที่ต้องการของผู้ใช้  โดยเราต้องรู้จักมักคุ้นการใช้เครื่องมืออย่างถูกวิธี  และเหมาะสมกับประเภทของงาน  ดังนั้นในการใช้เครื่องมือจึงถือเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่สำคัญในการทำงานช่าง แต่จะกล่าวเฉพาะเครื่องมือที่จำเป็นและใช้เป็นประจำในสมัยปัจจุบันดังนี้

1. สว่านไฟฟ้า ใช้เจาะรูขนาดต่าง ๆ  ต้องใช้พร้อมกับดอกสว่าน (ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงาน)
2. ดอกจำปา ใช้ไขหัวสว่าน ในการใส่ดอกสว่านให้แน่น
3. ดอกสว่าน ใช้เจาะรูกลม ๆ  ขนาดต่าง ๆ
4. ไขควงเช็คไฟ ใช้ตรวจทานวงจรไฟฟ้าจุดต่าง ๆ ว่ามีกระแสไฟฟ้าหรือไม่
5. ไขควงปากแบน  หรือปากตรง ใช้ขันสกรูหัวแบน
6. ไขควงปากแฉก ใช้ขันสกรูหัวสี่แฉก
7. ประแจแหวน ใช้ขันน็อตหกเหลี่ยม
8. ประแจแหวน และประแจปากตาย  ใช้ขันน็อตหัวหกเหลี่ยม และหัวสี่เหลี่ยม
9. คีมตัดสายไฟ ใช้ตัดสายไฟฟ้าขนาดต่าง ๆ  ตามต้องการ
10. คีมตัดและคีมจับ ใช้ปลายปากจับชิ้นงาน และด้านในใช้ตัดสายไฟ
11. คีมปากจิ้งจก ใช้ตัดและจับชิ้นงานเล็ก ๆ
12. คีมปากนกแก้ว ใช้ตัดลวด และใช้ผูกลวดกับเหล็ก
13. ประแจเลื่อน ใช้จับชิ้นงาน
14. คีมล็อค ใช้จับชิ้นงานต่าง ๆ ที่มีความแข็งแรงมาก
15. กรรไกรตัดเหล็ก ใช้ตัดงานโลหะแผ่น
16. รีเวดร์ ใช้ยึดจับชิ้นงานโลหะ 2 ชิ้น เข้าด้วยกัน
17. ค้อนเหลี่ยมสันขวาง ใช้ตอกตะปูเข็มขัดรัดสายไฟฟ้า
18. ค้อนหงอน ใช้ตอกตะปูงานช่างไม้
19. ค้อนหัวยาง ใช้งานโลหะแผ่น
20. เลื่อยเหล็ก ใช้ตัดโลหะ
21. เลื่อยลันดา ใช้ตัดไม้ขนาดต่าง ๆ
22. คัตเตอร์ ใช้ตัดของต่างๆ และใช้ปอกสายไฟฟ้า
23. เหล็กฉาก ใช้วัดให้ได้มุมฉาก ใช้ในการตัดไม้หรือเหล็ก
24. เกรียง ใช้ขูดสีต่าง ๆ   ออกจากชิ้นงาน
25. ที่วัดระดับน้ำ ใช้ปรับพื้นผิวต่าง ๆ ให้ได้ระดับเดียวกัน
เครื่องมือช่างที่คนเขียนแนะนำมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งส่วนใดของเครื่องมือช่างเท่านั้น ยังมีเครื่องมือช่างอีกนานาประการ หลายประเภท ซึ่งผู้เขียนแนะนำเสนอในเรียงความต่อไป...

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

ผู้ใช้งานเครื่องฉีดน้ำล้างรถ การเลือกซื้อเครื่องล้างรถ


เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สิ่งที่เราต้องตรวจสอบอย่างแรกคือ การนำไปใช้งาน เนื่องจากเครื่องล้างอัดฉีดมีด้วย กันหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแรงดัน ตั้งแต่ 70 Bar 90 Bar 100 Bar 110 Bar 120 Bar จนถึง 200 Bar กันเลยทีเดียว นอกจากจะมีหลาก หลายแรงดันแล้ว ยังต้องดูเรื่องปริมาณการให้น้ำว่ากี่ลิตร/ชั่วโมง และประเภทของมอเตอร์ งบประมาณที่เราตั้งเอาไว้ในการที่จะเป็นเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สักตัว  นอกจากนี้แล้วที่สำคัญที่สุดคือ การรับประกันสินค้า (อันนี้สำคัญมาก)
อย่างที่พูดในข้างต้น ควรซื้อ (Pressure) แรงดันเท่าไรดี ?
จากความชำนาญของการขายเครื่องล้างรถมาพอสมควร ผม มักจะสรุปได้ดังนี้ คือลูกค้ามักใช้งานเครื่องฉีดน้ำไปใช้งานไม่ตรงกับ ประเภทการใช้งานจริงๆ เพราะว่า ซื้อเอาเพราะราคาถูก ก็พอ คิดว่าไม่แตกต่างกัน สำหรับเครื่องมือช่างอื่นๆ ผมว่าพอทำได้  แต่เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเป็นข้อยกเว้น มันเป็นเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับแรงดัน ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่ายถ้าหาก  การผลิต และการ QC มาไม่ดีพอ (ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผู้เขียนไม่มีนโยบายให้ลูกค้าต้องใช้ของมีราคา)

ผู้ใช้งานเครื่องฉีดน้ำล้างรถ ให้พิจารณาดังนี้ ว่าเราต้องการเอาไปชำระล้างอะไร เช่นถ้าหากเอาไป ล้างมอไซต์ ล้างพื้นบ้าน(พื้นที่ไม่ใหญ่มาก) ให้พิจารณาเครื่องฉีดน้ำล้างรถประมาณ  100-120 Bar ก็พอแล้ว เอาที่มีอัตราการใช้น้ำมากหน่อยลองเปรียบเทียบดู แล้วไปดูว่าประเภทมอเตอร์เป็นระบบใด สำหรับเครื่องล้าง รถที่ให้แรงดันขนาดนี้จะมีมอเตอร์ให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ universal Motor (มีแปรงถ่าน) และอีกชนิดคือ ชนิด  Induction Motor
     สำหรับเครื่องล้างรถที่ใช้มอเตอร์ชนิด universal Motor นั้นมีข้อดีคือความถูก ข้อบกพร่องคือ จะมีความร้อนสะสมรวดเร็วทำให้ใช้งานต่อเนื่องยาวนานไม่ได้ ใช้ประมาณ 20-25 นาที ต้องพักประมาณ 10-15 นาที และมีเสียงดังมาก ถ้าหากคุณใช้งานตามบ้าน ไม่ได้ใช้งานหนักก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ราคาอยู่ประมาณ 2,xxx - 7,xxx บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และ คุณลักษณะครับ
     สำหรับเครื่องฉีดน้ำที่ใช้มอเตอร์ชนิด Induction Motor เป็นมอเตอร์ความเร็วรอบต่ำ  ทำให้ความร้อนสะสมน้อย ทำให้ฉีดต่อเนื่องได้ยาวนาน เสียงเงียบ สำหรับผู้ใช้ตามบ้านที่เป็นห่วงเรื่องเสียงของเครื่องฉีดน้ำ แนะนำให้ใช้เครื่องฉีดน้ำที่ใช้มอเตอร์ประเภทนี้ แต่จะต้องแลกมาด้วยค่าตัวของมัน ซึ่งแพงขึ้น มาหน่อย อยู่ราวๆ 6,xxx - 2x,xxxx บาท ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ แหล่งผลิต วัสดุที่ใช้ในการผลิต และเทคโนโลยี ซึ่งเครื่องฉีดน้ำในกลุ่มนี้ มีเทคโนโลยีต่างกันมากมาย สำหรับเครื่องฉีดน้ำในกลุ่มนี้
 เพียงเท่านี้ ทุกท่านก็หน้าจะเลือกเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงได้ตรงกับความประสงค์แล้วนะครับ

วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558

มาทำความรู้จักปั๊มน้ำพร้อมด้วยจุดดีของปั๊มน้ำกันเถอะ


ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างหรือเครื่องไม้เครื่องมือไฟฟ้าอีกแผนกหนึ่งที่ใช้มาก ในอุตสาหกรรมและ ตามบ้านเรือน โดยเนื้อๆตามที่พักอาศัยซึ่งเป็นอาคารชุด ตามอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือในบางพื้นที่ที่ต้องการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้
ดังนั้นการรู้จักมักคุ้นซื้อ รู้จักวิธีการใช้และการติดตั้ง “ปั๊มน้ำ” อย่างถูกวิธีจะไม่ก่อให้ เกิดการรั่วไหลและฟุ่มเฟือยพลังงานและเป็นการใช้ไฟฟ้าและใช้น้ำอย่างมี ประสิทธิภาพ และราคาปั๊มน้ำที่ถูกลงมาก

พรรณของปั๊มน้ำ (ตามลักษณะการทำงาน)
ปั๊มแบบใบพัด
ปั๊มน้ำชนิดนี้ภายในเรือนปั๊ม จะมีใบพัด ประกอบกิจสร้างความดัน จากการหมุนที่ความเร็วรอบสูงและแรงดันทำให้ น้ำไหลไปตามท่อที่ต่อไว้ได้ นิยมนำมาใช้ใน อุตสาหกรรมและตามที่อยู่อาศัยทั่วไป เพราะ การไหลของนาจะต่อเนื่องสม่ำเสมอ

เครื่องปั๊มน้ำแบบลูกสูบ
ปั้มน้ำสายนี้เรือนปั๊มเป็นกระบอกสูบ ภายในจะมีลูกสูบ ทำหน้าที่สร้างความดันจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ทำให้ขนาดของ กระบอกสูบลดลงเกิดเป็นความดันเพื่อขับดันนาให้ไหลไปได้ แต่การไหลของนา จะเป็นช่วงๆ ตามจังหวะการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ส่วนใหญ่นำไปใช่ในงาน ที่ต้องการความดันสูง

การทำงานของปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำที่ใช้ด้านในบ้านเป็นชนิดที่มี ใบพัดภายในหัวปั๊มหรือเรือนปั๊ม  ใบพัดเป็นตัวสร้างความดันเพื่อ ขับดันให้น้ำไหลไปได้โดยมีชุดสวิตซ์ความ ดันเป็นเครื่องใช้ไม้สอยควบคุมการทำงานของ ปั๊มน้ำ ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ จะต่อโดยตรงกับจุดใช้น้ำ เช่นฝักบัว ก๊อกน้ำ ชักโครก เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเราเปิดฝักบัวหรือก๊อกน้ำ น้ำจะ ไหลออกจากท่อหรือระบบทำให้ความดัน ภายในท่อลดลงส่งผลให้เกิดการดัดต่อของ สวิตซ์ความดัน ปั๊มน้ำจึงทำงาน
การเปิดก๊อกน้ำมีผลต่อการทำงาน ของปั๊มน้ำเป็นอย่างมาก ถ้าเราเปิดก๊อก น้ำเพียง ตัว และน้ำไหลไม่แรงมากแล้ว การทำนจะไม่ตัดต่อบ่อยเพราะยังมี ความตันเหลืออยู่ในเส้นท่อมาก แต่ถ้าเรา เปิดก๊อกให้น้ำไหลแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่าให้ความดันสูญเสียเร็วขึ้นปั๊มน้ำก็จะ ท่างานบ่อยมากขึ้น ตังนั้นเพื่อเป็นการ เขม็ดแขม่น้ำและไฟฟ้าควรเปิดก๊อกน้ำใช้ตามความจำเป็น แต่ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องเปิดใช้น้ำหลายจุด พร้อมกัน เช่น ใช้ฝักบัวอาบน้ำพร้อมกับล้างจานและรดน้ำต้นไม้ จะทำให้ปั๊มน้ำทำงานทุกเมื่อเชื่อวัน ดังนั้นการใช้น้ำในแต่ละจุดจึงไม่ควร เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้สม่ำเสมอ

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

ปั๊มน้ำแต่ละประเภท ภายในบ้าน


"ปั๊มน้ำ" เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการค้าขายกันมานาน และมีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของลูกค้า


ปั๊มน้ำ ส่วนมากมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ, ปั๊มน้ำกึ่งอัตโนมัติ, ปั๊มหอยโข่ง ปั๊มน้ำบาดาล และปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีลักษณะการใช้งานแตกต่างกันออกไป

ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เหมาะสำหรับการใช้ภายในบ้าน คือ เมื่อมีการเปิดก๊อกน้ำ ปั๊มน้ำจะทำงาน พอเลิกใช้ปั๊มน้ำก็หยุดทำงาน ความจุของปั๊มน้ำอัตโนมัติมีตั้งแต่ 100-400 วัตต์ สำหรับ 100–150 วัตต์ เหมาะกับบ้านที่มีผู้อาศัย 2-3 คน และ ขนาด 400 - 700 วัตต์ สำหรับตระกูลใหญ่

ปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ เหมาะสำหรับการดึงน้ำ เช่น ดึงน้ำท่วมบ้าน ดึงน้ำจากบ่อ ปั๊มจุ่มจะมีให้เลือกหลายขนาด ถ้าพึงประสงค์ให้ดึงน้ำเร็วต้องใช้ตัวที่วัตต์สูง เช่น 200 -250 วัตต์ แต่ถ้าไม่พึงประสงค์ดึงน้ำมากๆ ใช้วัตต์น้อยๆ ก็จะประหยัดได้ด้วย ในการใช้งานติดต่อจะใช้ได้แค่ 7 ชั่วโมง ถ้าเกินจากนั้นปั๊มน้ำจะร้อนจัดทำให้มอเตอร์ตัดและใบพัดล็อค เราต้องถอดใบพัดออกมาหมุนกลับเข้าไปใหม่ ก็จะใช้งานได้อย่างเดิม

ปั๊มหอยโข่ง เหมาะสำหรับกับการดึงน้ำเก็บใส่ถัง เหมือนที่ใช้ในการเกษตรคือส่งน้ำไปไกลๆ หรือดึงน้ำขึ้นไปบนอาคารสูงๆ เพราะว่าปั๊มหอยโข่งจะมีแรงม้าสูง มี 1 แรงม้า 2 แรงม้า แต่ไม่เป็นระบบอัตโนมัติ ตัวนี้เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องนานๆ

ปั๊มกึ่งอัตโนมัติ จะเหมือนๆ กับปั๊มอัตโนมัติ แต่เราต้องเปิด-ปิดสวิทช์ หรือเสียบปลั๊ก-ถอดปลั๊กใช้งานเอง ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยม ลูกค้าส่วนใหญ่จะนิยมแบบอัตโนมัติไปเลย

ปั๊มน้ำบาดาล เป็นปั๊มน้ำที่ดูดมาใช้ด้านในครัวเรือนหรือใช้ในการเกษตรกรรม

การเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับงานจะช่วยประหยัดเงิน
การเลือกใช้ปั๊มน้ำนั้น ถ้าใช้ภายในบ้านเราต้องดูจากจำนวนผู้อยู่อาศัยว่าอยู่กันกี่คน เช่น ทาวเฮาส์ 2 ชั้น จะมีแค่ 2-3 ห้องน้ำ เลือกใช้ปั๊มขนาด 100-150 วัตต์ก็พอเพียง หรือถ้าไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เลือกใช้แค่ 100 วัตต์ เราก็สามารถเปิดน้ำในเวลาเดียวกันได้ 2-3 จุด แต่ถ้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ควรเพิ่มเป็น 150 วัตต์ เพราะว่าจะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำอุ่นหรือเมื่อเราเปิดก๊อกน้ำหลายจุดโดยพร้อมเพรียง แล้วถ้าเป็นลูกค้าบ้านเดี่ยวอยากแนะนำให้ใช้ปั๊มขนาด 200–250 วัตต์ เพราะจะเปิดในเวลาเดียวกันได้ถึง 5-6 จุด หรือถ้าติดเครื่องทำน้ำอุ่นถึง 3 ห้องน้ำ ขอแนะนำให้ใช้แบบ 250 วัตต์ เพราะจะดีตรงที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วย

อีกอย่างที่ช่วยให้ประหยัดไฟคือการเลือกใช้ฝักบัว ฝักบัวที่น้ำออกมาเป็นฝอยจะช่วยประหยัดน้ำ แต่ถ้าเป็นฝักบัวแบบที่เปิดแล้วน้ำออกมาเป็นสายอย่างนี้จะเปลืองน้ำกว่า ไม่ประหยัดน้ำเพราะน้ำจะไหลออกมาเร็วเกินพอดี และกินไฟเยอะขึ้นเพราะมอเตอร์ปั๊มน้ำจะทำงานต่อเนื่องไม่ตัด ดังนั้นการที่เราเลือกฝักบัวหรือสายฉีดชำระที่มีความละเอียดเวลาน้ำออกมา มอเตอร์จะไม่ทำงานหนักเพราะตัดได้บ่อยไม่ทำงานสม่ำเสมอ แบบนี้จะดีในการเลือกใช้

การติดตั้งปั๊มน้ำอย่างถูกแบบช่วยประหยัดพลังงาน
ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ไม่แนะนำให้ติดตั้งแบบดึงตรง (by pass) แนะนำให้ต่อกับแท็งก์น้ำ (ติดตั้งแท็งก์น้ำเพิ่ม) แล้วให้ปั๊มดึงน้ำจากแท็งก์เข้าบ้านนี้จะช่วยประหยัดไฟกว่าเป็นพิเศษ อีกอย่างคือการติดตั้งแท็งก์น้ำจะช่วยให้น้ำใช้หรือน้ำฝักบัวของเราไม่มีตะกอน เพราะว่าเวลาที่น้ำเข้าแท็งก์ตัวตะกอนจะตกลงก้นแท็งก์ก่อน เวลาใช้ปั๊มดึงก็จะได้น้ำสะอาดออกมา ต่อนี้ไปก็ช่วยประหยัดน้ำ-ประหยัดไฟได้เยอะเลย...