วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558

แนวทางใช้งานและการเลือกใช้เลื่อยจิ๊กซอว์สำหรับใช้ภายในบ้าน

เลื่อยจิ๊กซอว์ ราคาถูก

แนวทางใช้งานและการเลือกใช้เลื่อยจิ๊กซอว์สำหรับใช้ภายในบ้าน
เลื่อยจิ๊กซอว์เป็นอุปกรณ์สำหรับช่างไม้ที่รู้จักมักจี่กันดี เลื่อยจิ๊กซอว์เป็นเครื่องอุปกรณ์ที่มีประโยชน์มาก ถ้าใช้ใบเลื่อยที่เหมาะกับงาน จะสามารถใช้เลื่อยวัสดุได้เกือบทุกชนิด เลื่อยจิ๊กซอว์เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการเจ็บที่รุนแรงได้ ซึ่งต่างจากเครื่องใช้ไม้สอยอื่นๆ เราสามารถควบคุมบังคับได้อย่างอิสระ หรือลากไปตามขอบไม้เป็นแนวตรง นิยมใช้เลื่อยเป็นวงกลม หรือตามลวดลายมากกว่า แต่ก็มีจุดด้อยอยู่บ้าง เพราะว่าการควบคุมให้เป็นแนวเส้นตรง เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และผิวที่ได้ออกมามักไม่เนียนเหมือนใช้เลื่อยวงเดือน

เลื่อยจิ๊กซอว์ประกอบด้วยส่วนประกอบที่เป็นเหล็ก และ พลาสติก มีใบเลื่อยสั้นๆโผล่ออกมา ซึ่งจะมีกลไกอยู่ตรงกลางของใบเลื่อย ส่วนของใบเลื่อยจะยื่นออกมาจากแผ่นโลหะ ช่วงกลไกทำงานและมีเสียงดัง และใบเลื่อยจะเขยื้อนขึ้นลง      

วิธีการใช้งานเลื่อยจิ๊กซอว์
1.   ควรเลือกจิ๊กซอว์ที่มีใบเลื่อยเหมาะกับวัสดุที่จะเลื่อย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ที่ง่ายขึ้น
2.   ติดตั้งชิ้นงานบนม้ารองเลื่อย หรือโต๊ะงานไม้ จากนั้นให้เส้นแนวตัดอยู่นอกแนวขอบโต๊ะ
3.   หลังจากนั้นเสียบปลั๊กไฟ พาดสายไฟไว้บนบ่า เพื่อป้องกันไม่ให้เลื่อยพลาดไปตัดสายไฟ
4.   ต่อไปวางตำแหน่งเลื่อยให้ขอบของแผ่นโลหะด้านหน้าอยู่บนชิ้นงาน และตัวใบเลื่อยอยู่ตรงเส้นแนวเลื่อย
5.   ต่อไปกดกลไก แล้วเริ่มทำการเลื่อย กดแผ่นรองเลื่อยลงบนชิ้นงาน แล้วเริ่มต้นเลื่อยไปข้างหน้าตามเส้นที่ขีดไว้ เมื่อต้องการปัดขี้เลื่อยออก ให้ปล่อยไกเพื่อหยุดการทำงานของเลื่อย
6.   หลังจากนั้นปล่อยให้เลื่อยเลื่อนไปเอง หากต้องการเปลี่ยนทิศทาง ให้พยายามฝืนหรือออกกำลังดันไปทางด้านข้าง เลื่อยจะขยับออกนอกแนวที่ต้องการเอง
7.   ต่อจากนั้นปล่อยให้เลื่อยเลื่อนไปเรื่อยๆ โดยพยายามควบคุมเมื่อถึงช่วงโค้งหรือมุม เคล็ดลับถ้าหากว่าเป็นมุมแคบๆ ให้เลื่อยเข้าไปหามุมในทิศทางใดทิศทางหนึ่งก่อน แล้วหยุดเครื่อง ยกเลื่อยออกจากงาน แล้วเลื่อยอีกมุมเข้าหากัน

เทคนิคการใช้เลื่อยจิ๊กซอว์
        หากต้องการเลื่อยเป็นเส้นตรง ให้หาไม้ตรงๆ มาเพื่อช่วยทำเส้นตรง วัดระยะระหว่างใบเลื่อยกับขอบของแผ่นโลหะที่ตัวเลื่อย ใช้ปากกาจับชิ้นงานจับชิ้นไม้ไว้ที่ระยะห่างจากเส้นแนวเลื่อยตามที่วัดได้ แล้วลองเลื่อยดู โดยลองกับเศษไม้ก่อน

คำแนะนำจากช่าง
        เนื่องด้วยเลื่อยจิ๊กซอว์เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง และใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เลื่อยจิ๊กซอว์จึงเป็นเครื่องมืออย่างแรกที่ควรซื้อติดบ้านไว้

วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงใช้ล้างรถ

เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงใช้ล้างรถ

ท่านผู้อ่านหลายท่านคงประสบกับปัญหาที่ว่า ทำไมช่วงฤดูฝน รถที่เพิ่งจะล้างเสร็จแล้วจะต้องเขรอะอีกแหละ ทำให้เซ็งกับคราบตะไคร่น้ำ หรือคราบดำที่ฝังที่ติดแน่นตามพื้นหน้าบ้าน รอยสกปรกห้องน้ำที่เปรอะเปื้อนเหลือเกิน หากทำคนเดียวนี้ถ้าจะออกกำลังทำความสะอาดด้วยตัวคนเดียวก็คงไม่เสร็จแน่ๆ
เครื่องที่หลายท่านมองหาอยู่เพื่อมาช่วยเหลืออุปสรรคเหล่านี้ คือ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง แล้วควรซื้อ แบบไหนดี ความแรงเท่าไหร่ ถึงจะเหมาะกับงานที่ต้องใช้งาน

เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงใช้ล้างรถ
สำหรับท่านผู้อ่านบ้านไหนที่ใช้สำหรับล้างรถอย่างเดียว เช่น ฟอร์นิเจอร์  มอไซด์  ล้างรถเก๋ง จักรยาน  รถกระบะ ล้างแอร์  และงานบ้านทั่วไป ก็ควรเลือกซื้อแค่แรงดัน 100 bar ก็เพียงพอต่อการมใช้งานแล้ว แต่ถ้ามีงบประมาณสักหน่อย ก็ดูสัก 120 bar เป็นต้น

ใช้เพื่อล้างรถและพื้นหน้าบ้าน ขอบเขตไม่กว้างมาก
แนะนำแรงดันสัก 120 บาร์ เหมาะกับการใช้งานไม่เกิน 1 ชั่วโมง

ใช้ล้างพื้นโดยเฉพาะเลย และใช้ล้างรถเป็นบางครั้ง
แนะนำความแรงสัก 130 bar  ใช้งานต่อเนื่องอยุ่ที่ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ซ.ม.

จุดเด่นของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง 
ย่อนระยะเวลาในการทำงาน เช่น ล้างพื้น ล้างรถ ใช้งานง่าย และประหยัดการใช้น้ำลงไปถึง 50-60 % ส่วนเครื่องที่เป็นระบบ อัตโนมัติ ระบบเครื่องจะการหยุดทำงาน ในขณะที่ไม่ได้กดไกปืนฉีดน้ำ โดยขณะใช้งานอยู่ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปเปิด-ปิดเครื่องบ่อยๆ เนื่องจากจะมีระบบตัดไฟตัดน้ำauto stopถ้าหากเครื่องร้อนเกินไป น้องๆหลายคนคงร้อนใจว่า ซื้อแรงดันสูงเวลานำไปใช้งานและล้างรถยนต์ สีของรถยนต์จะเกิดอันตรายไหม จริงๆแล้ว อู่ล้างรถใช้แรงดันอยุ่ที่ 150-180 bar ซึ่งสเปค 100 - 130 bar ไม่เป็นอันตรายต่อสีรถแน่นอน

ข้อเสนอแนะการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
• ควรปล่อยให้น้ำไหลเข้าเครื่องสักพักก่อน แล้วค่อยเริ่มใช้งานเครื่อง เพื่อป้องกันเครื่องเสีย
• หากเครื่องมีปัญหา เช่น เครื่องกระตุกควรหยุดการใช้งานเครื่องแล้วเปิดใหม่ หากยังผิดปกติควรส่งเครื่องให้ช่างพิจารณา
• ขณะใช้งานอย่าให้สายส่งน้ำบิดงอเพราะขณะใช้งานแรงดันภายในสายจะมีมากอาจทำให้สายหมดสภาพได้
• ขณะใช้งานควรสวมเครื่องป้องกันดวงตา รองเท้า อุปกรณ์ปิดปาก-จมูก เพื่อป้องกันฝุ่นละออง
• แนะนำให้ไล่แรงดันภายในสายหลังเลิกใช้งาน ด้วยการกดไกปืน 1 ครั้ง
หากปฏิบัติตามคำแนะนำก็สามารถใช้งานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยไร้กังวลแล้วคะ

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

มาทำความรู้จักปั๊มน้ำด้วยกันจุดดีของปั๊มน้ำกัน


ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างหรือเครื่องใช้ไม้สอยไฟฟ้าอีกวิธหนึ่งที่ใช้มาก ในอุตสาหกรรมและ ตามบ้านเรือน โดยล้วนๆตามที่พักอาศัยซึ่งเป็นอาคารชุด ตามอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือในบางพื้นที่ที่ต้องการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้
ดังนั้นการรู้จักมักจี่ซื้อ รู้จักวิธีใช้และการติดตั้ง “ปั๊มน้ำ” อย่างถูกวิธีจะไม่ก่อให้ เกิดการรั่วไหลและสิ้นเปลืองพลังงานและเป็นการใช้ไฟฟ้าและใช้น้ำอย่างมี ศักยภาพ และราคาปั๊มน้ำที่ถูกลงมาก

ประเภทของปั๊มน้ำ (ตามลักษณะการทำงาน)
ปั๊มแบบใบพัด
ปั๊มน้ำประเภทนี้ภายในเรือนปั๊ม จะมีใบพัด ประจำการสร้างความดัน จากการหมุนที่ความเร็วรอบสูงและแรงดันทำให้ น้ำไหลไปตามท่อที่ต่อไว้ได้ นิยมนำมาใช้ใน อุตสาหกรรมและตามที่อยู่อาศัยทั่วไป เพราะ การไหลของนาจะต่อเนื่องสม่ำเสมอ

เครื่องปั๊มน้ำแบบลูกสูบ
ปั้มน้ำวิธานี้เรือนปั๊มเป็นกระบอกสูบ ภายในจะมีลูกสูบ ทำหน้าที่สร้างความดันจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ทำให้ขนาดของ กระบอกสูบลดลงเกิดเป็นความดันเพื่อขับดันนาให้ไหลไปได้ แต่การไหลของนา จะเป็นช่วงๆ ตามจังหวะการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ส่วนใหญ่นำไปใช่ในงาน ที่ต้องการความดันสูง

การทำงานของปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้ภายในบ้านเป็นชนิดที่มี ใบพัดภายในหัวปั๊มหรือเรือนปั๊ม  ใบพัดเป็นตัวสร้างความดันเพื่อ ขับดันให้น้ำไหลไปได้โดยมีชุดสวิตซ์ความ ดันเป็นวัสดุควบคุมการทำงานของ ปั๊มน้ำ ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ จะต่อโดยตรงกับจุดใช้น้ำ เช่นฝักบัว ก๊อกน้ำ ชักโครก เป็นต้น ต่อจากนั้นเมื่อเราเปิดฝักบัวหรือก๊อกน้ำ น้ำจะ ไหลออกจากท่อหรือระบบทำให้ความดัน ภายในท่อลดลงส่งผลให้เกิดการดัดต่อของ สวิตซ์ความดัน ปั๊มน้ำจึงทำงาน
การเปิดก๊อกน้ำมีผลต่อการทำงาน ของปั๊มน้ำเป็นอย่างมาก ถ้าเราเปิดก๊อก น้ำเพียง ตัว และน้ำไหลไม่แรงมากแล้ว การทำนจะไม่ตัดต่อบ่อยเพราะยังมี ความตันเหลืออยู่ในเส้นท่อมาก แต่ถ้าเรา เปิดก๊อกให้น้ำไหลแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่าให้ความดันเสียเร็วขึ้นปั๊มน้ำก็จะ ท่างานบ่อยมากขึ้น ตังนั้นเพื่อเป็นการ ออมอดน้ำและไฟฟ้าควรเปิดก๊อกน้ำใช้ตามความจำเป็น แต่ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องเปิดใช้น้ำหลายจุด พร้อมกัน เช่น ใช้ฝักบัวอาบน้ำพร้อมกับล้างจานและรดน้ำต้นไม้ จะทำให้ปั๊มน้ำทำงานทุกเวลา ดังนั้นการใช้น้ำในแต่ละจุดจึงไม่ควร เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ทุกเมื่อเชื่อวัน

เครื่องไม้เครื่องมือช่างพื้นฐานสำหรับงานไม้

เลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องไม้เครื่องมือช่างพื้นฐานสำหรับงานไม้ ที่ช่างเริ่มหัดหรือช่างผู้ชำนาญทุกคนควรมี เพราะสามารถใช้งานง่ายและมากมาย เช่น การตัดตามแนวขวางของไม้ ตัดซอยไม้ หรือ การตัดกึ่งกลางแผ่นของไม้

เลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องมือสำหรับช่างไม้ เช่น ช่างเฟอร์นิเจอร์ที่ช่างทุกคนควรมีติดตัวไว้ เนื่องด้วยเป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดไม้ได้หลายชนิด หลายลักษณะงาน ทำให้งานไม้เป็น เรื่องไม่ซับซ้อนไปเลย ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น เลื่อยวงเดือนมีหลายจำพวกหลายขนาดให้เลือกใช้ โดย ทั่วไปแล้วเลื่อยวงเดือนมีหลายแบบ สุดแล้วแต่บริษัทผู้ผลิต แต่เค้าโครงก็จะเหมือนๆกัน  มีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน และมีราคาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักหลายพันเลยก็มี เลื่อยวงเดือนเป็นทีนิยมมากของช่างไม้เนื่องจากสามารถตัดท่อนไม้ได้หลากหลายรูปแบบ สามารถตัดมุม90 องศา หรือ 45องศาได้  เลื่อยวงเดือนเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายแต่ก็ส่งเสียงดังและยังมีฝุ่นละอองจากไม้อีก นับว่าเป็นผล ร้ายอย่างมากกับผู้ใช้งาน

เครื่องมือช่างที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเครื่องมือช่างพื้นฐานเท่านั้น ราคาเครื่องมือช่างปัจจุบันนี้ก็ไม่แพงมากราคาหลักร้อย  หลักพัน ก็สามารถมีเครื่องมือช่างคู่ใจได้แล้ว แต่ควรเลือกใช้ให้ เหมาะสมกับที่งานที่ได้รับ เครื่องมือช่างมีหลายประเภท หลายชนิด หลายลักษณะการใช้งาน แล้วแต่ช่างว่าสมควรที่จะใช้เครื่องมือแบบ ไหนที่เหมาะสมกับงาน งานแต่ละชนิดก็จะใช้เครื่องมือช่างที่แตกต่าง กันออกไป สำหรับช่างเริ่มหัดควรเลือกใช้เครื่องมือที่ถูกกับลักษณะของงาน เพื่อช่วยทุ่นกำลังให้งานทำงาน

เครื่องมือช่างเป็น สิ่งที่ช่วยทุ่นกำลังให้กับช่าง และช่วยทำให้ช่างปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว

เครื่องมือช่างประจำบ้าน
เครื่องมือช่าง คือ วัสดุอุปกรณ์ที่ทำด้วยโลหะ มีหลายชนิด หลายแบบ ใช้ได้หลายลักษณะงาน แล้วแต่งานที่ ต้องการทำ

เลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องมือช่างขั้นต้นสำหรับงานไม้ มีประเภทเหมือนเลื่อยองศาแต่ไม่มีแท่น สามารถทำได้หลากหลายลักษณะ
เลื่อยวงเดือนองศา เป็นเครื่องที่นิยมไว้เก็บชิ้นงานของช่าง สามารถกำหนดมุมองศาได้อย่างตรงเป๊ะ เมื่อตัดไม้ และต่อไม้เข้าด้วยกันอย่างเรียบเนียน

เครื่องมือช่างเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับช่างๆทุกคน เพราะเป็นเครื่องมือเลี้ยงชีพของช่างก็ว่าได้ เครื่อง มือช่างมีหลายชนิด หลายจำพวก
เครื่องมือช่าง คือ วัสดุอุปกรณ์ที่ช่างเริ่มหัดควรมีไว้ประจำกาย เพราะ เป็นเครื่องมือที่ใช้ทำมาหากินของช่าง
ความจำเป็นของเครื่องมือช่าง

เลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องมือสำหรับช่างไม้ เช่น ช่างเฟอร์นิเจอร์ที่ช่างใครต่อใครควร มีประจำตัวไว้ เนื่องมาจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดไม้ได้หลายชนิด หลายลักษณะงาน ทำให้งานไม้ เป็นเรื่องไม่ยุ่งยากไปเลย ทำให้งานเสร็จรวดเร็วขึ้น เลื่อยวงเดือนมีหลายจำพวกหลายขนาดให้เลือกใช้  โดยทั่วไปแล้วเลื่อยวงเดือนมีหลายแบบอย่าง สุดแต่บริษัทผู้ผลิต แต่รูปทรงก็จะคล้ายกัน  มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และมีราคาที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักหลายพันเลยก็มี

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

เครื่องมือช่างไม้สอยภายในบ้าน

เครื่องมือช่าง เป็นวัสดุอุปกรณ์สำหรับช่วยทุ่นเเรงในการปฏิบัติงานเเละกระทำวัตถุโดย มีเพิ่มกำลังหรือขีดจำกัดความชำนิชำนาญของมนุษย์ ทำให้มีความสะดวกเเละช่วยให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้น ต่อจากนั้นมนุษย์ได้ดัดเเปลงเครื่องมือต่างๆเหล่านี้เป็นเครื่องมือกลทางไฟฟ้าที่มีกำลังมากขึ้นหลายเท่าจากเครื่องมือธรรมดา ตัวอย่างเช่น สว่านไฟฟ้า เครื่องเจียร เครื่องตัด เลื่อยวงเดือน

ในธุรกิจอุตสาหกรรม หรือโรงงานแผนกวิชาช่างอุตสาหกรรม มีเครื่องมือช่างขนาดเล็กหลายแบบ ซึ่งแตกต่างกันทั้งลักษณะ รูปร่าง และการใช้งาน สิ่งจำเป็นในการทำงานช่างคือ เครื่องมือนั่นเอง แม้ว่าช่างจะมีความสามารถดีเพียงใด แต่ถ้าเครื่องมือไม่พร้อมที่จะทำงานก็เชื่อว่า วิธีการการทำงานช่าง การผลิต การซ่อมแซม การบำรุงรักษา หรือการประกอบติดตั้งได้ผลงานดีไม่ได้ ดังนั้นควรจะรู้จักการใช้เครื่องมือ การเก็บบำรุงรักษาที่ถูกวิธี โดยเน้นให้เหมาะสมกับประเภทของงาน เพราะหากนำไปใช้ผิดหมวด ขาดความรอบคอบ และไม่ทราบถึงคุณสมบัติการใช้งานเฉพาะตัวของเครื่องมือ จะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ฉะนั้นควรทราบแนวทางปฏิบัติที่จำเป็น เพื่อเตรียมพร้อมในการลงมือทำงานต่อจากนั้น

ลักษณะของงานช่าง
งานช่าง  คือ  งานที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง  ซ่อมแซม  บำรุงรักษา  หรือดัดแปลงวัสดุหรือเศษวัตถุให้เป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทำให้เครื่องใช้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น  และช่วยประหยัดรายจ่ายภายในบ้านได้อีกด้วย

เป็นที่ตกลงกันโดยทั่วไปว่าเครื่องมือ เป็นวัตถุสำคัญอย่างหนึ่งในการปฏิบัติงานช่าง  เพราะเครื่องมือเป็นสิ่งที่ ช่วยผ่อนแรงในการทำงาน  และช่วยให้งานสำเร็จตามแผนการ งานที่ออกมาดี  สวยงาม  เป็นที่ต้องการของผู้ใช้  โดยเราต้องรู้จักมักคุ้นการใช้เครื่องมืออย่างถูกวิธี  และเหมาะสมกับประเภทของงาน  ดังนั้นในการใช้เครื่องมือจึงถือเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่สำคัญในการทำงานช่าง แต่จะกล่าวเฉพาะเครื่องมือที่จำเป็นและใช้เป็นประจำในสมัยปัจจุบันดังนี้

1. สว่านไฟฟ้า ใช้เจาะรูขนาดต่าง ๆ  ต้องใช้พร้อมกับดอกสว่าน (ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงาน)
2. ดอกจำปา ใช้ไขหัวสว่าน ในการใส่ดอกสว่านให้แน่น
3. ดอกสว่าน ใช้เจาะรูกลม ๆ  ขนาดต่าง ๆ
4. ไขควงเช็คไฟ ใช้ตรวจทานวงจรไฟฟ้าจุดต่าง ๆ ว่ามีกระแสไฟฟ้าหรือไม่
5. ไขควงปากแบน  หรือปากตรง ใช้ขันสกรูหัวแบน
6. ไขควงปากแฉก ใช้ขันสกรูหัวสี่แฉก
7. ประแจแหวน ใช้ขันน็อตหกเหลี่ยม
8. ประแจแหวน และประแจปากตาย  ใช้ขันน็อตหัวหกเหลี่ยม และหัวสี่เหลี่ยม
9. คีมตัดสายไฟ ใช้ตัดสายไฟฟ้าขนาดต่าง ๆ  ตามต้องการ
10. คีมตัดและคีมจับ ใช้ปลายปากจับชิ้นงาน และด้านในใช้ตัดสายไฟ
11. คีมปากจิ้งจก ใช้ตัดและจับชิ้นงานเล็ก ๆ
12. คีมปากนกแก้ว ใช้ตัดลวด และใช้ผูกลวดกับเหล็ก
13. ประแจเลื่อน ใช้จับชิ้นงาน
14. คีมล็อค ใช้จับชิ้นงานต่าง ๆ ที่มีความแข็งแรงมาก
15. กรรไกรตัดเหล็ก ใช้ตัดงานโลหะแผ่น
16. รีเวดร์ ใช้ยึดจับชิ้นงานโลหะ 2 ชิ้น เข้าด้วยกัน
17. ค้อนเหลี่ยมสันขวาง ใช้ตอกตะปูเข็มขัดรัดสายไฟฟ้า
18. ค้อนหงอน ใช้ตอกตะปูงานช่างไม้
19. ค้อนหัวยาง ใช้งานโลหะแผ่น
20. เลื่อยเหล็ก ใช้ตัดโลหะ
21. เลื่อยลันดา ใช้ตัดไม้ขนาดต่าง ๆ
22. คัตเตอร์ ใช้ตัดของต่างๆ และใช้ปอกสายไฟฟ้า
23. เหล็กฉาก ใช้วัดให้ได้มุมฉาก ใช้ในการตัดไม้หรือเหล็ก
24. เกรียง ใช้ขูดสีต่าง ๆ   ออกจากชิ้นงาน
25. ที่วัดระดับน้ำ ใช้ปรับพื้นผิวต่าง ๆ ให้ได้ระดับเดียวกัน
เครื่องมือช่างที่คนเขียนแนะนำมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งส่วนใดของเครื่องมือช่างเท่านั้น ยังมีเครื่องมือช่างอีกนานาประการ หลายประเภท ซึ่งผู้เขียนแนะนำเสนอในเรียงความต่อไป...

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

ผู้ใช้งานเครื่องฉีดน้ำล้างรถ การเลือกซื้อเครื่องล้างรถ


เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สิ่งที่เราต้องตรวจสอบอย่างแรกคือ การนำไปใช้งาน เนื่องจากเครื่องล้างอัดฉีดมีด้วย กันหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแรงดัน ตั้งแต่ 70 Bar 90 Bar 100 Bar 110 Bar 120 Bar จนถึง 200 Bar กันเลยทีเดียว นอกจากจะมีหลาก หลายแรงดันแล้ว ยังต้องดูเรื่องปริมาณการให้น้ำว่ากี่ลิตร/ชั่วโมง และประเภทของมอเตอร์ งบประมาณที่เราตั้งเอาไว้ในการที่จะเป็นเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สักตัว  นอกจากนี้แล้วที่สำคัญที่สุดคือ การรับประกันสินค้า (อันนี้สำคัญมาก)
อย่างที่พูดในข้างต้น ควรซื้อ (Pressure) แรงดันเท่าไรดี ?
จากความชำนาญของการขายเครื่องล้างรถมาพอสมควร ผม มักจะสรุปได้ดังนี้ คือลูกค้ามักใช้งานเครื่องฉีดน้ำไปใช้งานไม่ตรงกับ ประเภทการใช้งานจริงๆ เพราะว่า ซื้อเอาเพราะราคาถูก ก็พอ คิดว่าไม่แตกต่างกัน สำหรับเครื่องมือช่างอื่นๆ ผมว่าพอทำได้  แต่เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเป็นข้อยกเว้น มันเป็นเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับแรงดัน ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่ายถ้าหาก  การผลิต และการ QC มาไม่ดีพอ (ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผู้เขียนไม่มีนโยบายให้ลูกค้าต้องใช้ของมีราคา)

ผู้ใช้งานเครื่องฉีดน้ำล้างรถ ให้พิจารณาดังนี้ ว่าเราต้องการเอาไปชำระล้างอะไร เช่นถ้าหากเอาไป ล้างมอไซต์ ล้างพื้นบ้าน(พื้นที่ไม่ใหญ่มาก) ให้พิจารณาเครื่องฉีดน้ำล้างรถประมาณ  100-120 Bar ก็พอแล้ว เอาที่มีอัตราการใช้น้ำมากหน่อยลองเปรียบเทียบดู แล้วไปดูว่าประเภทมอเตอร์เป็นระบบใด สำหรับเครื่องล้าง รถที่ให้แรงดันขนาดนี้จะมีมอเตอร์ให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ universal Motor (มีแปรงถ่าน) และอีกชนิดคือ ชนิด  Induction Motor
     สำหรับเครื่องล้างรถที่ใช้มอเตอร์ชนิด universal Motor นั้นมีข้อดีคือความถูก ข้อบกพร่องคือ จะมีความร้อนสะสมรวดเร็วทำให้ใช้งานต่อเนื่องยาวนานไม่ได้ ใช้ประมาณ 20-25 นาที ต้องพักประมาณ 10-15 นาที และมีเสียงดังมาก ถ้าหากคุณใช้งานตามบ้าน ไม่ได้ใช้งานหนักก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ราคาอยู่ประมาณ 2,xxx - 7,xxx บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และ คุณลักษณะครับ
     สำหรับเครื่องฉีดน้ำที่ใช้มอเตอร์ชนิด Induction Motor เป็นมอเตอร์ความเร็วรอบต่ำ  ทำให้ความร้อนสะสมน้อย ทำให้ฉีดต่อเนื่องได้ยาวนาน เสียงเงียบ สำหรับผู้ใช้ตามบ้านที่เป็นห่วงเรื่องเสียงของเครื่องฉีดน้ำ แนะนำให้ใช้เครื่องฉีดน้ำที่ใช้มอเตอร์ประเภทนี้ แต่จะต้องแลกมาด้วยค่าตัวของมัน ซึ่งแพงขึ้น มาหน่อย อยู่ราวๆ 6,xxx - 2x,xxxx บาท ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ แหล่งผลิต วัสดุที่ใช้ในการผลิต และเทคโนโลยี ซึ่งเครื่องฉีดน้ำในกลุ่มนี้ มีเทคโนโลยีต่างกันมากมาย สำหรับเครื่องฉีดน้ำในกลุ่มนี้
 เพียงเท่านี้ ทุกท่านก็หน้าจะเลือกเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงได้ตรงกับความประสงค์แล้วนะครับ

วันพุธที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2558

มาทำความรู้จักปั๊มน้ำพร้อมด้วยจุดดีของปั๊มน้ำกันเถอะ


ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างหรือเครื่องไม้เครื่องมือไฟฟ้าอีกแผนกหนึ่งที่ใช้มาก ในอุตสาหกรรมและ ตามบ้านเรือน โดยเนื้อๆตามที่พักอาศัยซึ่งเป็นอาคารชุด ตามอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือในบางพื้นที่ที่ต้องการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้
ดังนั้นการรู้จักมักคุ้นซื้อ รู้จักวิธีการใช้และการติดตั้ง “ปั๊มน้ำ” อย่างถูกวิธีจะไม่ก่อให้ เกิดการรั่วไหลและฟุ่มเฟือยพลังงานและเป็นการใช้ไฟฟ้าและใช้น้ำอย่างมี ประสิทธิภาพ และราคาปั๊มน้ำที่ถูกลงมาก

พรรณของปั๊มน้ำ (ตามลักษณะการทำงาน)
ปั๊มแบบใบพัด
ปั๊มน้ำชนิดนี้ภายในเรือนปั๊ม จะมีใบพัด ประกอบกิจสร้างความดัน จากการหมุนที่ความเร็วรอบสูงและแรงดันทำให้ น้ำไหลไปตามท่อที่ต่อไว้ได้ นิยมนำมาใช้ใน อุตสาหกรรมและตามที่อยู่อาศัยทั่วไป เพราะ การไหลของนาจะต่อเนื่องสม่ำเสมอ

เครื่องปั๊มน้ำแบบลูกสูบ
ปั้มน้ำสายนี้เรือนปั๊มเป็นกระบอกสูบ ภายในจะมีลูกสูบ ทำหน้าที่สร้างความดันจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ทำให้ขนาดของ กระบอกสูบลดลงเกิดเป็นความดันเพื่อขับดันนาให้ไหลไปได้ แต่การไหลของนา จะเป็นช่วงๆ ตามจังหวะการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ส่วนใหญ่นำไปใช่ในงาน ที่ต้องการความดันสูง

การทำงานของปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำที่ใช้ด้านในบ้านเป็นชนิดที่มี ใบพัดภายในหัวปั๊มหรือเรือนปั๊ม  ใบพัดเป็นตัวสร้างความดันเพื่อ ขับดันให้น้ำไหลไปได้โดยมีชุดสวิตซ์ความ ดันเป็นเครื่องใช้ไม้สอยควบคุมการทำงานของ ปั๊มน้ำ ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ จะต่อโดยตรงกับจุดใช้น้ำ เช่นฝักบัว ก๊อกน้ำ ชักโครก เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเราเปิดฝักบัวหรือก๊อกน้ำ น้ำจะ ไหลออกจากท่อหรือระบบทำให้ความดัน ภายในท่อลดลงส่งผลให้เกิดการดัดต่อของ สวิตซ์ความดัน ปั๊มน้ำจึงทำงาน
การเปิดก๊อกน้ำมีผลต่อการทำงาน ของปั๊มน้ำเป็นอย่างมาก ถ้าเราเปิดก๊อก น้ำเพียง ตัว และน้ำไหลไม่แรงมากแล้ว การทำนจะไม่ตัดต่อบ่อยเพราะยังมี ความตันเหลืออยู่ในเส้นท่อมาก แต่ถ้าเรา เปิดก๊อกให้น้ำไหลแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่าให้ความดันสูญเสียเร็วขึ้นปั๊มน้ำก็จะ ท่างานบ่อยมากขึ้น ตังนั้นเพื่อเป็นการ เขม็ดแขม่น้ำและไฟฟ้าควรเปิดก๊อกน้ำใช้ตามความจำเป็น แต่ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องเปิดใช้น้ำหลายจุด พร้อมกัน เช่น ใช้ฝักบัวอาบน้ำพร้อมกับล้างจานและรดน้ำต้นไม้ จะทำให้ปั๊มน้ำทำงานทุกเมื่อเชื่อวัน ดังนั้นการใช้น้ำในแต่ละจุดจึงไม่ควร เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้สม่ำเสมอ

วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2558

ปั๊มน้ำแต่ละประเภท ภายในบ้าน


"ปั๊มน้ำ" เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการค้าขายกันมานาน และมีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของลูกค้า


ปั๊มน้ำ ส่วนมากมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ, ปั๊มน้ำกึ่งอัตโนมัติ, ปั๊มหอยโข่ง ปั๊มน้ำบาดาล และปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีลักษณะการใช้งานแตกต่างกันออกไป

ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เหมาะสำหรับการใช้ภายในบ้าน คือ เมื่อมีการเปิดก๊อกน้ำ ปั๊มน้ำจะทำงาน พอเลิกใช้ปั๊มน้ำก็หยุดทำงาน ความจุของปั๊มน้ำอัตโนมัติมีตั้งแต่ 100-400 วัตต์ สำหรับ 100–150 วัตต์ เหมาะกับบ้านที่มีผู้อาศัย 2-3 คน และ ขนาด 400 - 700 วัตต์ สำหรับตระกูลใหญ่

ปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ เหมาะสำหรับการดึงน้ำ เช่น ดึงน้ำท่วมบ้าน ดึงน้ำจากบ่อ ปั๊มจุ่มจะมีให้เลือกหลายขนาด ถ้าพึงประสงค์ให้ดึงน้ำเร็วต้องใช้ตัวที่วัตต์สูง เช่น 200 -250 วัตต์ แต่ถ้าไม่พึงประสงค์ดึงน้ำมากๆ ใช้วัตต์น้อยๆ ก็จะประหยัดได้ด้วย ในการใช้งานติดต่อจะใช้ได้แค่ 7 ชั่วโมง ถ้าเกินจากนั้นปั๊มน้ำจะร้อนจัดทำให้มอเตอร์ตัดและใบพัดล็อค เราต้องถอดใบพัดออกมาหมุนกลับเข้าไปใหม่ ก็จะใช้งานได้อย่างเดิม

ปั๊มหอยโข่ง เหมาะสำหรับกับการดึงน้ำเก็บใส่ถัง เหมือนที่ใช้ในการเกษตรคือส่งน้ำไปไกลๆ หรือดึงน้ำขึ้นไปบนอาคารสูงๆ เพราะว่าปั๊มหอยโข่งจะมีแรงม้าสูง มี 1 แรงม้า 2 แรงม้า แต่ไม่เป็นระบบอัตโนมัติ ตัวนี้เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องนานๆ

ปั๊มกึ่งอัตโนมัติ จะเหมือนๆ กับปั๊มอัตโนมัติ แต่เราต้องเปิด-ปิดสวิทช์ หรือเสียบปลั๊ก-ถอดปลั๊กใช้งานเอง ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยม ลูกค้าส่วนใหญ่จะนิยมแบบอัตโนมัติไปเลย

ปั๊มน้ำบาดาล เป็นปั๊มน้ำที่ดูดมาใช้ด้านในครัวเรือนหรือใช้ในการเกษตรกรรม

การเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับงานจะช่วยประหยัดเงิน
การเลือกใช้ปั๊มน้ำนั้น ถ้าใช้ภายในบ้านเราต้องดูจากจำนวนผู้อยู่อาศัยว่าอยู่กันกี่คน เช่น ทาวเฮาส์ 2 ชั้น จะมีแค่ 2-3 ห้องน้ำ เลือกใช้ปั๊มขนาด 100-150 วัตต์ก็พอเพียง หรือถ้าไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เลือกใช้แค่ 100 วัตต์ เราก็สามารถเปิดน้ำในเวลาเดียวกันได้ 2-3 จุด แต่ถ้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ควรเพิ่มเป็น 150 วัตต์ เพราะว่าจะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำอุ่นหรือเมื่อเราเปิดก๊อกน้ำหลายจุดโดยพร้อมเพรียง แล้วถ้าเป็นลูกค้าบ้านเดี่ยวอยากแนะนำให้ใช้ปั๊มขนาด 200–250 วัตต์ เพราะจะเปิดในเวลาเดียวกันได้ถึง 5-6 จุด หรือถ้าติดเครื่องทำน้ำอุ่นถึง 3 ห้องน้ำ ขอแนะนำให้ใช้แบบ 250 วัตต์ เพราะจะดีตรงที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วย

อีกอย่างที่ช่วยให้ประหยัดไฟคือการเลือกใช้ฝักบัว ฝักบัวที่น้ำออกมาเป็นฝอยจะช่วยประหยัดน้ำ แต่ถ้าเป็นฝักบัวแบบที่เปิดแล้วน้ำออกมาเป็นสายอย่างนี้จะเปลืองน้ำกว่า ไม่ประหยัดน้ำเพราะน้ำจะไหลออกมาเร็วเกินพอดี และกินไฟเยอะขึ้นเพราะมอเตอร์ปั๊มน้ำจะทำงานต่อเนื่องไม่ตัด ดังนั้นการที่เราเลือกฝักบัวหรือสายฉีดชำระที่มีความละเอียดเวลาน้ำออกมา มอเตอร์จะไม่ทำงานหนักเพราะตัดได้บ่อยไม่ทำงานสม่ำเสมอ แบบนี้จะดีในการเลือกใช้

การติดตั้งปั๊มน้ำอย่างถูกแบบช่วยประหยัดพลังงาน
ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ไม่แนะนำให้ติดตั้งแบบดึงตรง (by pass) แนะนำให้ต่อกับแท็งก์น้ำ (ติดตั้งแท็งก์น้ำเพิ่ม) แล้วให้ปั๊มดึงน้ำจากแท็งก์เข้าบ้านนี้จะช่วยประหยัดไฟกว่าเป็นพิเศษ อีกอย่างคือการติดตั้งแท็งก์น้ำจะช่วยให้น้ำใช้หรือน้ำฝักบัวของเราไม่มีตะกอน เพราะว่าเวลาที่น้ำเข้าแท็งก์ตัวตะกอนจะตกลงก้นแท็งก์ก่อน เวลาใช้ปั๊มดึงก็จะได้น้ำสะอาดออกมา ต่อนี้ไปก็ช่วยประหยัดน้ำ-ประหยัดไฟได้เยอะเลย...

วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ปั๊มลมขนาดเล็กพ่นสีตามอู่ซ่อมสีรถยนต์


ปั๊มลม หรือ เครื่องปั๊มลม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Air Compressor" ทำงานในการอัดลมให้มีแรงผลักดันสูงตามที่เราต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และประยุคใช้ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็ก ตลอดจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ระบบนิวเมติกส์ และอุตสาหกรรมครัวเรือน เช่นร้านซ่อมรถ ซึ่งจะใช้เป็นปั๊มลมจำพวกลูกสูบ (Piston Air Compressor) เพราะใช้แรงดัน (Pressure) ไม่สูงมาก เป็นต้น ส่วนเครื่องอัดอากาศที่ใช้ในโรงงานนั้นส่วนมากแล้วจะใช้เป็นปั๊มลมแบบสกรู (Screw Air Compressor) ซึ่งจะใช้แรงลมที่มากกว่า โดยทั่วไปแล้ว ปั๊มลมหรือเครื่องอัดอากาศ คือ เครื่องมือบีบอัดอากาศจากบรรยากาศ   เพื่อให้เกิดแรงดันสูงขึ้น  และสามารถนำไปใช้ในรูปแบบหนึ่งของ”พลังงาน”   อากาศที่ถูกอัดสามารถนำไปใช้งานได้ดีเสมือนหนึ่งในสามทรัพยากรของโรงงาน    ได้แก่ไฟฟ้า , น้ำประปา และ ลมอัด      ด้วยสรรพคุณที่เหมาะสมและมากมาย   การใช้งานลมได้รับความนิยมอย่างมากในเครื่องปั๊มลมของการนำลมใช้เป็นตัวขับเครื่องจักรต่างๆ   เช่น  เครื่องมือ หุ่นยนต์  ลักษณะต่างๆ

ปั้มลม คือ พลังงานใหม่ที่มีเสน่ห์ เนื่องจากว่ามีปั๊มลมขนาดเล็กรองรับมากมาย เช่น ปืนลม สกัดคอนกรีตลม ปากกาลม ไขควงลม สว่านลม AIR DRILLS, ปืนเป่าลม AIR BLOW GUN, เครื่องยิงตะปูลม AIR STRAPLERS/AIR NAILERS ฯลฯ การใช้เครื่องอัดลมจึงเป็นที่นิยม เพราะสามารถใช้กับอุตสาหกรรมได้เป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อน ปั๊มลมของเครื่องยนต์กลไก ปั้มลมของปั๊มลม หรือแม้กระทั้งหุ่นยนต์ เครื่องอัดลมสำหรับงานอุตสาหกรรม เครื่องอัดอากาศตามอู่ซ่อมรถ ร้านปะยาง ปั๊มลมขนาดเล็กพ่นสีตามอู่ซ่อมสีรถยนต์ บริการล้างรถ ปั๊มลมสำหรับงานไม้ เฟอนิเจอร์ ตกแต่งภายใน หรือใช้ตามบ้านสำหรับงานอดิเรก พ่นสีโมเดล ใช้เครื่องปั๊มลมกับแอร์บลัช เพื่องานประกอบโมเดล ปั๊มลมขนาดเล็ก หรือเครื่องอัดลม เราควรมาดูความต้องการใช้งานปั้มลมให้เหมาะสมกับงาน

ขั้นตอนเลือกซื้อเครื่องอัดลม
เราต้องเลือกดูงานที่เราจะใช้ เราต้องการเครื่องอัดลมที่แรงดันมากน้อยขนาดไหน ปริมาณลมที่ต้องการมาก ความไม่ว่างเว้นของงาน หรือปริมาณการจ่ายลม ลมที่ใช้ต้องบริสุทธ์ระดับไหน เช่น การทำการทำงานของช่างไม้ ใช้ปั้มลูกสูบ อาจจะต้องการแรงลมมากพอดี อาจจะแตกต่างเรื่องความต่อเนื่องของงานทำให้ เครื่องปั๊มลมขนาดของถังบรรจุลมที่ใหญ่ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง เครื่องก็จะไม่ต้องทำงานหนักคือเครื่องอัดอากาศทำงานบ่อย เมื่อความดันหรือปริมาณลมลดต่ำลง หรือ จะใช้เครื่องปั๊มลมกับแอร์บลัช บริเวณการใช้งานมีส่วนสำคัญ เช่น แหล่งท้องถิ่น บ้านพักอาศัย อาจก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายได้ หากต้องเลือก ระหว่าง ปั้มลมสายพาน กับโรตารี่ (Rotary) ปั้มลมสายพานจะเสียงเบากว่าปั้มลม โรตารี่ (Rotary) หากต้องการลมที่มีความสะอาด ใช้ปั๊มลมขนาดเล็กแบบ ไดอะเฟรม เพราะลมจะไม่ได้สัมผัสกับโลหะเลย แต่ให้แรงลมน้อย ใช้กับอุดสาหกรรมเคมี อาจมีอาการลมขาดช่วงบ้าง ส่วนปั้มลมแบบสกรูเราจะพบเห็นตามโรงงานเป็นส่วนใหญ่ ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ เป็นต้น

ปั๊มลมหรือเครื่องอัดลมแบบลูกสูบ (Piston Air Compressor)
ถือเป็นปั๊มลมที่นิยมใช้งานมากที่สุดด้วยความเหมาะสมต่อการใช้งานและราคาที่ไม่สูงมากนักแถมยังสามารถขนย้ายได้สะดวกอีกด้วย โดยเครื่องปั๊มลมชนิดนี้สามารถสร้างความดันหรือแรงกดดันลมได้ตั้งแต่ 1 bar ไปจนถึง 1,000 bar เลยทีเดียว โดยแรงอัดจะขึ้นอยู่กับปริมาณขั้นของการอัด ยิ่งขั้นในการอัดมากก็จะสามารถสร้างแรงอัดได้สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง สำหรับปั๊มลมหรือเครื่องอัดลมแบบลูกสูบ ยังแบ่งออกเป็นหมวดย่อยๆได้อีกอย่างเช่น Booster Air Compressor, High Pressure Air Compressor ปั๊มลมแรงดันสูงแต่ให้เสียงที่เงียบ เพราะโดยปกติแล้วปั๊มลมหมู่ลูกสูบนั้นจะมีข้อบกพร่องอย่างหนึ่งคือเสียงดังขณะเครื่องทำงาน

ปั๊มน้ำบาดาลเพื่อการทำไร่ทำสวน

ปั๊มน้ำบาดาล(Pump) เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่ช่วยส่งผ่านพลังงานจากแหล่งจุดกำเนิดไปยังของเหลว เพื่อทำให้ของเหลวเปลี่ยนที่จากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งที่อยู่สูงกว่า หรือในระยะทางที่ไกลออกไป โดยจุดแรกเริ่มของเครื่องปั๊มน้ำนี้มีพงศาวดารที่ยาวนานกว่า 2,000 ปีก่อนคริสตศักราช ซึ่งในช่วงแต่เดิมมีการใช้พลังงาน ที่ได้จากมนุษย์ สัตว์ หลังจากนั้นจึงได้ใช้พลังงานจากธรรมชาติ เช่น พลังงานจากลม และน้ำเป็นแหล่งจุดกำเนิด ซึ่งในระยะแรกเพียง เพื่อที่จะการอุปโภคบริโภคและทำไร่ทำสวนเท่านั้น

ปั๊มน้ำ ที่นิยมใช้ในบ้านเป็นส่วนใหญ่เป็นแบบสำเร็จรูป ประกอบด้วย ตัวปั๊มและถังความดัน มีอยู่หลายแบบอย่าง เช่น แบบที่เป็นตัวปั๊มเกาะอยู่บนถังความดัน และมีฝาครอบที่เรียกว่า ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เพราะปั๊มน้ำ ราคาถูก ตัวปั๊มจะควบคุมการทำงานด้วนสวิตซ์ความดัน (Pressure Switch) ซึ่งทำงานอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดใช้น้ำในบ้าน ความดันในท่อจะลดลงจนถึงค่าที่ตั้งไว้ ปั๊มน้ำจะดำเนินการจ่ายน้ำเข้าเส้นท่อเมื่อหยุดหรือปิดวัสดุอุปกรณ์ความดันจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงค่าที่ตั้งไว้ ปั๊มจะหยุดเครื่องปั๊มน้ำแบบนี้มักมีขนาดเล็ก ๆ จนถึงขนาดกลาง ถ้าเป็นบ้านหรืออาคารขนาดใหญ่ ต้องใช้ชุดเครื่องปั๊มน้ำแบบ Packaged Booster Pump Set ซึ่งจะจ่ายน้ำได้ในปริมาณสูง และเลือกความดันหลายประเภท แบ่งได้ 2 ชนิด คือ
1. ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เหมาะสมสำหรับอาคาร ห้องแถว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านช่องเดี่ยว มีประเภทเป็นระบบสวิตซ์เปิด-ปิดอัตโนมัติ ประหยัดไฟ มีกำลังส่งไปยังจุดต่าง ๆ
ภายในบ้านได้ดี สามารถต่อกับเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า หรือก๊อกน้ำได้
2. ปั๊มน้ำแรงดันคงที่ พอเหมาะสำหรับอาคารตึกแถว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว เป็นปั๊มอัตโนมัติควบคุมแรงดันคงที่ ให้น้ำตลอดเวลา เหมาะกับการติดตั้งใช้กับเครื่องทำน้ำอุ่น ที่สำคัญไม่เป็นสนิมตลอดอายุการใช้งาน

ปั๊มน้ำ การคัดเลือกซื้อปั๊มน้ำ
ถ้าเราจะเลือกสรรปั๊มน้ำสักตัวใช้งานให้เหมาะสมกับหัวสปริงเกอร์ที่ใช้งานหรือใช้งานทั่วไปแล้ว แล้วคำนวนราคาปั๊มน้ำตามวิธีจริงๆผมว่าชาวบ้านอย่างเราคงไม่มีวันเข้าใจและเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจ ตั้งแต่เห็นสูตรการคำนวนอันแรกแล้ว แต่ถึงเราไม่อยากดูสูตรที่ชวนตาลาย แต่ว่าเราก็จำเป็นต้องรู้รากฐานต่างๆของปั๊มด้วยเช่น หน่วยวัดต่างๆที่ใช้กับปั๊มน้ำ , การดูตารางความสามารถของปั๊มน้ำ , แรงดันสูญเสียภายในท่อ, ไม่อย่างนั้นเราจะเป็นไปไม่ได้รู้แนวทางการเลือกได้เลย ชนิดของเครื่องปั๊มน้ำก็มีอยู่มากมายให้เลือก ซึ่งผู้ใช้ก็ต้องคิดถึงถึงการใช้งานของตนเอง โดยส่วนใหญ่ก็แบ่งออกเป็นเครื่องปั๊มน้ำเพราะอาคารขนาดใหญ่หรือโรงงานอุตสาหกรรม และสำหรับบ้านเรือนทั่วไป ซึ่งตรงนี้จำเป็นจะต้องได้รับคำแนะนำจากมืออาชีพก่อนจะตัดสินใจซื้อ

ในช่วงปัจจุบันเครื่องปั๊มน้ำจัดเป็นเครื่องมือเครื่องไม้เครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่มีความเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของบุคคลอย่างมาก เป็นวัสดุอุปกรณ์ ที่ช่วยจัดส่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค การเกษตร กรมการติดต่อสื่อสาร อุตสาหกรรม จวบจวนจนการบรรเทาน้ำเสีย เพื่อรักษา สภาวะแวดล้อม ที่ดีให้กับมนุษย์ ซึ่งวิวัฒนาการของเครื่องปั๊มน้ำในสมัยนี้ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ที่ใช้พลังงานจาก แหล่งธรรมชาติมาเป็น การใช้พลังงานจากไอน้ำ จากเครื่องยนต์ และที่นิยมกันมากคือ การใช้พลังงานไฟฟ้า ดังที่ความสะดวกและง่ายต่อการใช้งานของประเภทงาน

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ปั๊มน้ำชนิดต่างๆ และแนวทางเลือกซื้อปั๊มน้ำ ให้เหมาะกับประเภทงาน

"ปั๊มน้ำ" เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการค้าขายกันมานาน และมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค


ปั๊มน้ำ โดยมากมีอยู่ 5 ตระกูล ได้แก่ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ, ปั๊มน้ำกึ่งอัตโนมัติ, ปั๊มหอยโข่ง ปั๊มน้ำบาดาล และปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีลักษณะการใช้งานแตกต่างกันออกไป

ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เหมาะสำหรับการใช้ภายในบ้าน คือ เมื่อมีการเปิดก๊อกน้ำ ปั๊มน้ำจะทำงาน พอเลิกใช้ปั๊มน้ำก็หยุดทำงาน ความจุของปั๊มน้ำอัตโนมัติมีตั้งแต่ 100-400 วัตต์ สำหรับ 100–150 วัตต์ เหมาะกับบ้านที่มีผู้อาศัย 2-3 คน และ ขนาด 400 - 700 วัตต์ สำหรับครัวเรือนใหญ่

ปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ เหมาะสำหรับการดึงน้ำ เช่น ดึงน้ำท่วมบ้าน ดึงน้ำจากบ่อ ปั๊มจุ่มจะมีให้เลือกหลายขนาด ถ้าพึงประสงค์ให้ดึงน้ำเร็วต้องใช้ตัวที่วัตต์สูง เช่น 200 -250 วัตต์ แต่ถ้าไม่ประสงค์ดึงน้ำมากๆ ใช้วัตต์น้อยๆ ก็จะประหยัดได้ด้วย ในการใช้งานติดต่อจะใช้ได้แค่ 7 ชั่วโมง ถ้าเกินจากนั้นปั๊มน้ำจะร้อนจัดทำให้มอเตอร์ตัดและใบพัดล็อค เราต้องถอดใบพัดออกมาหมุนกลับเข้าไปใหม่ ก็จะใช้งานได้ตามเดิม

ปั๊มหอยโข่ง เหมาะสำหรับกับการดึงน้ำเก็บใส่ถัง เหมือนที่ใช้ในการเกษตรคือส่งน้ำไปไกลๆ หรือดึงน้ำขึ้นไปบนอาคารสูงๆ เพราะว่าปั๊มหอยโข่งจะมีแรงม้าสูง มี 1 แรงม้า 2 แรงม้า แต่ไม่เป็นระบบอัตโนมัติ ตัวนี้เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องนานๆ

ปั๊มกึ่งอัตโนมัติ จะเหมือนๆ กับปั๊มอัตโนมัติ แต่เราต้องเปิด-ปิดสวิทช์ หรือเสียบปลั๊ก-ถอดปลั๊กใช้งานเอง ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยม ลูกค้าส่วนใหญ่จะนิยมแบบอัตโนมัติไปเลย

ปั๊มน้ำบาดาล เป็นปั๊มน้ำที่ดูดมาใช้ด้านในครัวเรือนหรือใช้ในการเกษตรกรรม

การเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับงานจะช่วยประหยัดเงิน
การเลือกใช้ปั๊มน้ำนั้น สำหรับเครื่องมือช่างถ้าใช้ในบ้านเราต้องดูจากปริมาณผู้อยู่อาศัยว่าอยู่กันกี่คน เช่น ทาวเฮาส์ 2 ชั้น จะมีแค่ 2-3 ห้องน้ำ เลือกใช้ปั๊มขนาด 100-150 วัตต์ก็เพียงพอ หรือถ้าไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เลือกใช้แค่ 100 วัตต์ เราก็สามารถเปิดน้ำพร้อมกันได้ 2-3 จุด แต่ถ้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ควรเพิ่มเป็น 150 วัตต์ ก็เพราะว่าจะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำอุ่นหรือเมื่อเราเปิดก๊อกน้ำหลายจุดพร้อมกัน แล้วถ้าเป็นลูกค้าบ้านเดี่ยวอยากแนะนำให้ใช้ปั๊มขนาด 200–250 วัตต์ เพราะจะเปิดในเวลาเดียวกันได้ถึง 5-6 จุด หรือถ้าติดเครื่องทำน้ำอุ่นถึง 3 ห้องน้ำ ขอชี้ช่องทางให้ใช้แบบ 250 วัตต์ เพราะจะดีตรงที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้เช่นกัน

อีกอย่างที่ช่วยให้ประหยัดไฟคือการเลือกใช้ฝักบัว ฝักบัวที่น้ำออกมาเป็นฝอยจะช่วยประหยัดน้ำ แต่ถ้าเป็นฝักบัวแบบที่เปิดแล้วน้ำออกมาเป็นสายอย่างนี้จะเปลืองน้ำกว่า ไม่ประหยัดน้ำเพราะน้ำจะไหลออกมาเร็วเกินพอดี และกินไฟมากขึ้นเพราะมอเตอร์ปั๊มน้ำจะทำงานต่อเนื่องไม่ตัด ดังนั้นการที่เราเลือกฝักบัวหรือสายฉีดชำระที่มีความละเอียดเวลาน้ำออกมา มอเตอร์จะไม่ทำงานหนักเพราะตัดได้บ่อยไม่ทำงานสม่ำเสมอ แบบนี้จะดีในการเลือกใช้

การติดตั้งปั๊มน้ำอย่างถูกวิธีการช่วยประหยัดพลังงาน
ในการติดตั้งปั๊มน้ำ สำหรับเครื่องมือช่างช่างประปา ไม่แนะนำให้ติดตั้งแบบดึงตรง (by pass) แนะนำให้ต่อกับแท็งก์น้ำ (ติดตั้งแท็งก์น้ำเพิ่ม) แล้วให้ปั๊มดึงน้ำจากแท็งก์เข้าบ้านนี้จะช่วยประหยัดไฟกว่าเป็นพิเศษ อีกอย่างคือการติดตั้งแท็งก์น้ำจะช่วยให้น้ำใช้หรือน้ำฝักบัวของเราไม่มีตะกอน เพราะเวลาที่น้ำเข้าแท็งก์ตัวตะกอนจะตกลงก้นแท็งก์ก่อน เวลาใช้ปั๊มดึงก็จะได้น้ำสะอาดออกมา ต่อนี้ไปก็ช่วยประหยัดน้ำ-ประหยัดไฟได้เยอะเลย...

การเลือกซื้อ ปั้มลม (Air Compressor) ใช้เองที่บ้าน


ปั๊มลม หรือ เครื่องปั๊มลม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Air Compressor" ใช้งานสำหรับในการอัดลมให้มีแรงดันสูงตามที่เราอยากเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และประยุคใช้ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็ก ตลอดจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ระบบนิวเมติกส์ และอุตสาหกรรมครัวเรือน เช่นการซ่อมรถ ซึ่งจะใช้เป็นปั๊มลมขนาดเล็กลักษณะลูกสูบ (Piston Air Compressor) เพราะใช้แรงดัน (Pressure) ไม่สูงมาก เป็นต้น ส่วนเครื่องปั๊มลมที่ใช้ในโรงงานอุตสาหรกรรมนั้นโดยมากแล้วจะใช้เป็นปั้มลมประเภทสกรู (Screw Air Compressor) ซึ่งจะใช้แรงลมที่มากกว่า
วิธีเลือกซื้อเครื่องสูบลม
เราต้องเลือกดูงานที่เราจะใช้ เราต้องการปั้มที่แรงดันมากน้อยประมาณไหน ปริมาณลมที่ต้องการมาก ความต่อเนื่องของงาน และปริมาณการจ่ายลม ลมที่ใช้ต้องสะอาดระดับไหน เช่น การทำงานของช่างไม้ ใช้ปั้มลูกสูบ อาจจะต้องการแรงลมมากพอสมควร อาจจะข้อแตกต่างเรื่องความสม่ำเสมอของงานทำให้ ขนาดของถังบรรจุลมที่ใหญ่ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง เครื่องก็จะไม่ต้องทำงานหนักคือปั้มทำงานบ่อย เมื่อไหร่ความดันหรือปริมาณลมลดต่ำลง หรือ จะใช้ปั้มลมกับแอร์บลัช สถานที่การใช้งานมีส่วนสำคัญ เช่น บริเวณชุมชน บ้านพักอาศัย อาจก่อให้เกิดความรำคาญได้ ข้อเปรียบเทียบ ระหว่าง ปั้มลมสายพาน กับโรตารี่ (Rotary) ปั้มลมสายพานจะเสียงเบากว่าปั้มลม โรตารี่ (Rotary) ถ้าต้องการลมที่มีความสะอาด ใช้ปั้มลมแบบ ไดอะเฟรม เพราะลมจะไม่ได้สัมผัสกับโลหะเลย แต่ให้แรงลมค่อยข้างน้อย ใช้กับอุดสาหกรรมเคมี อาจมีอาการลมหยุดบ้าง ส่วนปั้มลมแบบสกรูเราจะพบเห็นตามโรงงานเป็นโดยมาก ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ เป็นต้น

การเลือกเครื่องสูบลมใช้เองที่บ้าน
โดยที่เครื่องสูบลมที่คนส่วนมากเลือกใช้สูงสุดคือ เครื่องปั๊มลมแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR) มีหลายยี่ห้อเช่น TRYTON,OKURA, PUMA, SWAN, RAMBO, ROWEL, ANTO
ให้เราเลือกจากการใช้งานของเรา
1. แรงดันลมที่คุณใช้งาน
2. ปริมาณแรงลมที่ใช้ต่อเนื่อง
3. สถานที่ใช้งาน เนื่องจากปั้มลมแต่ละจำพวก จะมีเสียงดังไม่เท่ากัน
4. ลมที่ใช้งานมีความสะอาดขนาดไหน

ปั้มลมสามารถแบ่ง 6 ประเภท
1. ปั๊มลมขนาดเล็กหรือ ปั้มลมแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR)
2. ปั้มลมหรือ ปั้มลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR)
3. เครื่องปั๊มลมหรือ ปั๊มลมขนาดเล็กแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR)
4. เปั๊มลมขนาดเล็กหรือ เครื่องปั๊มลมแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR)
5. ปั๊มลมขนาดเล็กหรือ เครื่องปั๊มลมแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR)
6. ปั๊มลมขนาดเล็กหรือ เครื่องปั๊มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR)

การเลือกซื้อเครื่องขัดกระดาษทราย


การเลือกซื้อเครื่องขัดกระดาษทราย
เครื่องขัดกระดาษทราย เป็นเครื่องไม้เครื่องมือช่างที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ด้านบน มีลูกกลิ้งหรือสายพานเคลื่อนที่ไปได้ทั้งหน้าและหลัง การที่ช่างไม้จะ ทำงานไม้ให้ออกมาเรียบร้อยขึ้นอยู่กับหลายเหตุ และการขัดไม้ให้ออกมางามตา สวย เนียนก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นการขัดไม้ให้ออกมาเป็นระเบียบจึงสำคัญไม่น้อยกว่าการดีไซน์งานไม้เลยก็ว่าได้

เครื่องขัดกระดาษทราย ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยในงานไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องขัดกระดาษทรายไม่ได้ใช้ในงานขัดไม้ที่ขรุขระให้เรียบอย่างเดียวทั้งหมด ยังใช้กับงานอื่นๆ อย่างเช่น เมื่อมีการสร้างชิ้นส่วนของเฟอร์นิเจอร์หรือรูปร่างที่คล้ายคลึงกัน เช่นบันได แต่งเติมผิวไม้ให้เรียบก็ทำได้เช่นกัน และสามารถใช้กับงานลอกสีสำหรับทาสีใหม่ได้ ขัดรอยเชื่อมต่อของไฟเบอร์กลาสให้เรียบสำหรับงานซ่อมรถยนต์ เป็นเครื่องขัดสีรถยนต์ได้อีกด้วย เครื่องขัดกระดาษทรายพวกเขาจะใช้โดยทั่วไปเพื่อการตกแต่งและขัดพื้นผิวที่ขรุขระมาก และทำการขัดพื้นผิวปรับระดับ

วิธีการใช้งานเครื่องขัดกระดาษทราย
ระหว่างใช้งานอย่ากดน้ำหนักลงบนเครื่องขัดกระดาษทราย ให้น้ำหนักของเครื่องทำงาน บางรุ่นนั้นมีตัวจำกัดความเร็ว มีประโยชน์สำหรับเครื่องขัดกระดาษทรายมาก ก็เพราะว่าจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมความเร็วของสายพานขัด เพิ่มความเร็วในการจะช่วยให้ขัดได้อย่างรวดเร็วและทำลายล้างปัญหาในการควบคุมไปได้ด้วย

การเลือกเครื่องขัดกระดาษทราย
สมควรเลือกเครื่องขัดกระดาษทรายสายพานให้พอดีกับงานเครื่องขัดกระดาษทรายขนาดเล็กถึงขนาดกลางมีตั้งแต่ของจีนราคาไม่กี่ร้อย ถึงสินค้ายี่ห้อมาตรฐานราคาหลายๆพัน เครื่องขัดกระดาษทรายแบบรถถัง หรือที่เรียกว่าเครื่องขัดกระดาษทรายสายพาน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ค่อนข้างกว้างราคาหลายพันบาททีเดียว บางรุ่นจะมีกระดาษทรายที่แคบแต่ยาว แต่บางรุ่นจะเป็นแบบกระดาษทรายกว้างมากก็มี
วัสดุที่อ่อนน่าจะใช้กระดาษทรายที่หยาบกว่าเบอร์ 38-80 จะขัดได้ลึกและเร็วกว่ากระดาษทรายเบอร์ละเอียดเช่นเบอร์ 100 หรือสูงกว่า ตัวอย่างเช่นใช้เบอร์ 36 หรือ 40 ในการขัดหยาบหรือลอกสี และใช้เบอร์150 ขัดผิวสุดท้ายก่อนทาน้ำมันชักเงา
ในตลาดมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อเช่น เครื่องขัดกระดาษทราย makita ที่นิยมและอีกหลายๆยี่ห้อทั้งเครื่องขัดกระดาษทราย clinton,Samto,Bosch,Maktec,Okara,Kuani,Shinano แนะนำให้ดูตามความสามารถ ฟังก์ชั่นในการใช้งานและการรับประกัน

สิ่งที่คุณพึงจะทำเมื่อใช้เครื่องขัดกระดาษทราย
1. สวมอุปกรณ์ช่วยป้องกันฝุ่น
2.ให้มั่นใจว่าเครื่องขัดกระดาษทรายปิดแน่นอนก่อนจะเสียบปลั๊กไฟ
3.ปรับความตึงของสายพานขัดเพื่อให้เข้าท่ากับการทำงาน
4.ใช้เครื่องขัดกระดาษทรายในทิศทางที่ถูกต้อง อย่าเปลี่ยนทิศกะทันหัน
5.ให้มือห่างจากสายพานเครื่องขัดกระดาษทราย
6.ใช้มือทั้งสองข้างในการทำงาน จับให้มั่นเหมาะมือ
7.ทำความสะอาดฝุ่นและมอเตอร์หลังจากการใช้งานแล้ว
8.สวมใส่แว่นตานิรภัยเพื่อคุ้มครองใบหน้าและดวงตา

วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

แนะนำวิธีซื้อ ปั๊มลม (Air Compressor)

แนะนำวิธีซื้อ ปั๊มลม (Air Compressor)
ปั๊มลม หรือ  มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Air Compressor" ใช้งานสำหรับในการอัดลมให้มีแรงดันสูงตามที่เราต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และประยุคใช้ได้หลายด้าน เช่นงานที่เป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็ก ตลอดจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ระบบนิวเมติกส์ และอุตสาหกรรมครัวเรือน เช่นพวกร้านซ่อมรถ ซึ่งจะใช้เป็นปั้มลมแบบลูกสูบ (Piston Air Compressor) เพราะใช้แรงดัน (Pressure) ไม่สูงมาก เป็นต้น ส่วนเครื่องปั๊มลมที่ใช้ในโรงงานอุตสาหรกรรมนั้นโดยมากแล้วจะใช้เป็นปั๊มลมขนาดเล็กประเภทสกรู (Screw Air Compressor) ซึ่งจะใช้แรงลมที่มากกว่า
แนะนำวิธีซื้อเครื่องปั๊มลม
เราต้องเลือกดูงานที่เราจะใช้ เราต้องการปั้มที่แรงดันมากน้อยประมาณไหน ปริมาณลมที่ต้องการมาก ความต่อเนื่องของงาน หรือปริมาณการจ่ายลม ลมที่ใช้ต้องสะอาดระดับไหน เช่น การทำงานของช่างไม้ ใช้ปั้มลูกสูบ อาจจะต้องการแรงลมมากพอสมควร อาจจะข้อแตกต่างเรื่องความสม่ำเสมอของงานทำให้ ขนาดของถังบรรจุลมที่ใหญ่ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง เครื่องก็จะไม่ต้องทำงานหนักคือปั้มทำงานบ่อย ขณะที่ความดันหรือปริมาณลมลดต่ำลง หรือ จะใช้ปั้มลมกับแอร์บลัช ทำเลที่ตั้งการใช้งานมีส่วนสำคัญ เช่น บ้านชุมชน บ้านพักอาศัย อาจก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายได้ ข้อเปรียบเทียบ ระหว่าง ปั้มลมสายพาน กับโรตารี่ (Rotary) ปั้มลมสายพานจะเสียงเบากว่าปั้มลม โรตารี่ (Rotary) หากต้องการลมที่มีความสะอาด ใช้ปั้มลมแบบ ไดอะเฟรม เพราะลมจะไม่ได้สัมผัสกับโลหะเลย แต่ให้แรงลมค่อยข้างน้อย ใช้กับอุดสาหกรรมเคมี อาจมีอาการลมชะงักบ้าง ส่วนปั้มลมแบบสกรูเราจะพบเห็นตามโรงงานเป็นส่วนมาก ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ เป็นต้น

วิธีเลือกปั๊มลมขนาดเล็กใช้เองที่บ้าน
โดยที่ปั๊มลมขนาดเล็กที่คนส่วนมากเลือกใช้สูงสุดคือ ปั๊มลมขนาดเล็กแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR) มีหลายยี่ห้อเช่น TRYTON,OKURA, PUMA, SWAN, RAMBO, ROWEL, ANTO
ให้เราเลือกจากการใช้งานของเรา
1. แรงดันลมที่คุณใช้งาน
2. ปริมาณแรงลมที่ใช้ต่อเนื่อง
3. สถานที่ใช้งาน เนื่องจากปั้มลมแต่ละจำพวก จะมีเสียงดังไม่เท่ากัน
4. ลมที่ใช้งานมีความสะอาดขนาดไหน

ปั๊มลมสามารถแบ่ง 6 ตระกูล
1. เครื่องปั๊มลมหรือ เครื่องปั๊มลมแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR)
2. เครื่องสูบลมหรือ เครื่องสูบลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR)
3. ปั้มลมหรือ ปั้มลมแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR)
4. ปั้มลมหรือ ปั๊มลมขนาดเล็กแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR)
5. เครื่องปั๊มลมหรือ ปั๊มลมขนาดเล็กแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR)
6. เครื่องปั๊มลมหรือ ปั้มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR)

มาทำความรู้จักปั๊มน้ำกับจุดดีของปั๊มน้ำกันเถอะ

มาทำความรู้จักปั๊มน้ำกับจุดดีของปั๊มน้ำกันเถอะ
ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างหรือวัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้าอีกตระกูลหนึ่งที่ใช้มาก ในอุตสาหกรรมและ ตามบ้านเรือน โดยอย่างเดียวตามที่พักอาศัยซึ่งเป็นอาคารชุด ตามอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือในบางพื้นที่ที่ต้องการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้
ดังนั้นการรู้จักซื้อ รู้จักวิธีใช้และการติดตั้ง “ปั๊มน้ำ” อย่างถูกวิธีจะไม่ก่อให้ เกิดการรั่วไหลและเปลืองพลังงานและเป็นการใช้ไฟฟ้าและใช้น้ำอย่างมี ศักยภาพ และราคาปั๊มน้ำที่ถูกลงมาก

หมวดของปั๊มน้ำ (ตามลักษณะการทำงาน)
ปั๊มแบบใบพัด
ปั๊มน้ำประเภทนี้ภายในเรือนปั๊ม จะมีใบพัด ทำงานสร้างความดัน จากการหมุนที่ความเร็วรอบสูงและแรงดันทำให้ น้ำไหลไปตามท่อที่ต่อไว้ได้ นิยมนำมาใช้ใน อุตสาหกรรมและตามที่อยู่อาศัยทั่วไป เพราะ การไหลของนาจะต่อเนื่องสม่ำเสมอ

เครื่องปั๊มน้ำแบบลูกสูบ
ปั้มน้ำแผนกนี้เรือนปั๊มเป็นกระบอกสูบ ภายในจะมีลูกสูบ ทำหน้าที่สร้างความดันจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ทำให้ขนาดของ กระบอกสูบลดลงเกิดเป็นความดันเพื่อขับดันนาให้ไหลไปได้ แต่การไหลของนา จะเป็นช่วงๆ ตามจังหวะการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ส่วนใหญ่นำไปใช่ในงาน ที่ต้องการความดันสูง

การทำงานของปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำที่ใช้ภายในบ้านเป็นชนิดที่มี ใบพัดภายในหัวปั๊มหรือเรือนปั๊ม  ใบพัดเป็นตัวสร้างความดันเพื่อ ขับดันให้น้ำไหลไปได้โดยมีชุดสวิตซ์ความ ดันเป็นเครื่องใช้ไม้สอยควบคุมการทำงานของ ปั๊มน้ำ ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ จะต่อโดยตรงกับจุดใช้น้ำ เช่นฝักบัว ก๊อกน้ำ ชักโครก เป็นต้น เพราะเช่นนั้นเมื่อเราเปิดฝักบัวหรือก๊อกน้ำ น้ำจะ ไหลออกจากท่อหรือระบบทำให้ความดัน ภายในท่อลดลงส่งผลให้เกิดการดัดต่อของ สวิตซ์ความดัน ปั๊มน้ำจึงทำงาน
การเปิดก๊อกน้ำมีผลต่อการทำงาน ของปั๊มน้ำเป็นอย่างมาก ถ้าเราเปิดก๊อก น้ำเพียง ตัว และน้ำไหลไม่แรงมากแล้ว การทำนจะไม่ตัดต่อบ่อยเพราะยังมี ความตันเหลืออยู่ในเส้นท่อมาก แต่ถ้าเรา เปิดก๊อกให้น้ำไหลแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่าให้ความดันเสียเร็วขึ้นปั๊มน้ำก็จะ ท่างานบ่อยมากขึ้น ตังนั้นเพื่อเป็นการ กระเหม็ดกระเหมียดน้ำและไฟฟ้าควรเปิดก๊อกน้ำใช้ตามความจำเป็น แต่ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องเปิดใช้น้ำหลายจุด พร้อมกัน เช่น ใช้ฝักบัวอาบน้ำพร้อมกับล้างจานและรดน้ำต้นไม้ จะทำให้ปั๊มน้ำทำงานเป็นนิสัย ดังนั้นการใช้น้ำในแต่ละจุดจึงไม่ควร เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ทุกเมื่อ

วันจันทร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558

เครื่องมือช่างเป็นอุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน ที่ควรจะมีไว้ติดบ้าน

เครื่องมือช่าง เป็นวัสดุอุปกรณ์สำหรับช่วยทุ่นเเรงในการทำงานเเละกระทำวัตถุโดย มีเพิ่มกำลังหรือขีดจำกัดประสิทธิภาพของมนุษย์ ทำให้มีความสะดวกเเละช่วยให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้น หลังจากนั้นมนุษย์ได้ดัดเเปลงเครื่องมือต่างๆเหล่านี้เป็นเครื่องมือกลทางไฟฟ้าที่มีกำลังมากขึ้นหลายเท่าจากเครื่องมือธรรมดา ตัวอย่างเช่น สว่านไฟฟ้า เครื่องเจียร เครื่องตัด เลื่อยวงเดือน

ในธุรกิจอุตสาหกรรม หรือโรงงานจำพวกวิชาช่างอุตสาหกรรม มีเครื่องมือช่างขนาดเล็กหลายประเภท ซึ่งแตกต่างกันทั้งลักษณะ รูปพรรณสัณฐาน และการใช้งาน สิ่งจำเป็นในการทำงานช่างคือ เครื่องมือนั่นเอง แม้ว่าช่างจะมีความสามารถดีเพียงใด แต่ถ้าเครื่องมือไม่พร้อมที่จะทำงานก็เชื่อว่า กระบวนการการทำงานช่าง การผลิต การซ่อมแซม การบำรุงรักษา หรือการประกอบติดตั้งได้ผลงานดีไม่ได้ เพราะฉะนั้นควรจะรู้จักการใช้เครื่องมือ การเก็บบำรุงรักษาที่ถูกวิธี โดยเน้นให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน เพราะหากนำไปใช้ผิดประเภท ขาดความพึงระวัง และไม่ทราบถึงคุณสมบัติการใช้งานเฉพาะตัวของเครื่องมือ จะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นควรทราบรูปแบบปฏิบัติที่จำเป็น เพื่อเตรียมพร้อมในการลงมือทำงานหลังจากนั้น

ชนิดของงานช่าง
งานช่าง  หมายความว่า  งานที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง  ซ่อมแซม  บำรุงรักษา  หรือดัดแปลงวัสดุหรือเศษสิ่งของให้เป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทำให้เครื่องใช้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น  และช่วยประหยัดค่าใช้สอยภายในบ้านได้อีกด้วย

เป็นที่เห็นด้วยกันโดยทั่วไปว่าเครื่องมือ เป็นวัตถุสำคัญอย่างหนึ่งในการปฏิบัติงานช่าง  เพราะเครื่องมือเป็นสิ่งที่ ช่วยผ่อนแรงในการทำงาน  และช่วยให้งานสำเร็จตามกำหนดการ งานที่ออกมาดี  สวยงาม  เป็นที่ต้องการของผู้ใช้  โดยเราต้องรู้จักมักจี่การใช้เครื่องมืออย่างถูกทาง  และเหมาะสมกับประเภทของงาน  ดังนั้นในการใช้เครื่องมือจึงถือเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งที่สำคัญในการทำงานช่าง แต่จะกล่าวเฉพาะเครื่องมือที่จำเป็นและใช้เป็นประจำในปัจจุบันนี้ดังนี้

1. สว่านไฟฟ้า ใช้เจาะรูขนาดต่าง ๆ  ต้องใช้พร้อมกันกับดอกสว่าน (ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงาน)
2. ดอกจำปา ใช้ขันหัวสว่าน ในการใส่ดอกสว่านให้แน่นหนา
3. ดอกสว่าน ใช้เจาะรูกลม ๆ  ขนาดต่าง ๆ
4. ไขควงเช็คไฟ ใช้ตรวจวงจรไฟฟ้าจุดต่าง ๆ ว่ามีกระแสไฟฟ้าหรือไม่
5. ไขควงปากแบน  หรือปากตรง ใช้ขันสกรูหัวแบน
6. ไขควงปากแฉก ใช้ขันสกรูหัวสี่แฉก
7. ประแจแหวน ใช้ขันน็อตหกเหลี่ยม
8. ประแจแหวน และประแจปากตาย  ใช้ขันน็อตหัวหกเหลี่ยม และหัวสี่เหลี่ยม
9. คีมตัดสายไฟ ใช้ตัดสายไฟฟ้าขนาดต่าง ๆ  ตามต้องการ
10. คีมตัดและคีมจับ ใช้ปลายปากจับชิ้นงาน และด้านในใช้ตัดสายไฟ
11. คีมปากจิ้งจก ใช้ตัดและจับชิ้นงานเล็ก ๆ
12. คีมปากนกแก้ว ใช้ตัดลวด และใช้ผูกลวดกับเหล็ก
13. ประแจเลื่อน ใช้จับชิ้นงาน
14. คีมล็อค ใช้จับชิ้นงานต่าง ๆ ที่มีความแข็งแรงมาก
15. กรรไกรตัดเหล็ก ใช้ตัดงานโลหะแผ่น
16. รีเวดร์ ใช้ยึดจับชิ้นงานโลหะ 2 ชิ้น เข้าด้วยกัน
17. ค้อนเหลี่ยมสันขวาง ใช้ตอกตะปูเข็มขัดรัดสายไฟฟ้า
18. ค้อนหงอน ใช้ตอกตะปูงานช่างไม้
19. ค้อนหัวยาง ใช้งานโลหะแผ่น
20. เลื่อยเหล็ก ใช้ตัดโลหะ
21. เลื่อยลันดา ใช้ตัดไม้ขนาดต่าง ๆ
22. คัตเตอร์ ใช้ตัดของต่างๆ และใช้ปอกสายไฟฟ้า
23. เหล็กฉาก ใช้วัดให้ได้มุมฉาก ใช้ในการตัดไม้หรือเหล็ก
24. เกรียง ใช้ขูดสีต่าง ๆ   ออกจากชิ้นงาน
25. ที่วัดระดับน้ำ ใช้ปรับพื้นผิวต่าง ๆ ให้ได้ระดับเดียวกัน
เครื่องมือช่างที่คนเขียนแนะนำมา เป็นเพียงส่วนหนึ่งส่วนใดของเครื่องมือช่างเท่านั้น ยังมีเครื่องมือช่างอีกมากมาย หลายประเภท ซึ่งคนเขียนแนะนำเสนอในเรียงความต่อไป...

การใช้งานเลื่อยองศา

เลื่อยองศา ทำให้งานไม้ในการเสริมแต่งบ้านเรียบร้อยเร็วขึ้น ง่ายขึ้น และทำให้ถูกต้องมากขึ้น มีลักษณะเป็นจานกลมแบนติดอยู่บนแขน ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านบนของฐานโลหะขนาดเล็ก
เลื่อยองศา(เลื่อยรัศมี) เป็นเครื่องอุปกรณ์ที่มีความซับซ้อน มีด้ามจับด้ามจับติดอยู่บนตัวฐาน ซึ่งด้ามนี้จะมีตัวล็อคติดอยู่บนแผ่นฐานของเลื่อย และที่ฐานนี้มีแนวขอบที่เรียกว่ารั้ว(Fence) ติดตั้งในแนวตั้งอยู่ด้านหลังของฐาน สายไฟถูกร้อยเข้าในกระบอกซึ่งอยู่ด้านหนึ่งของเครื่อง มีขนาดใกล้เคียงกับกระป๋องกาแฟ ขนาดของเครื่องทั้งหมดใกล้เคียงกับตัวคน
                จานเลื่อยมีตัวประกอบหลายส่วน ส่วนแรกคือ แกนหมุน ซึ่งจะเป็นจานที่มีฟันเลื่อยอยู่ที่ขอบ ส่วนของครอบจะสามารถหมุนลงมาที่ฐาน ในขณะเดียวกัน ก็สมารถเลื่อนไปข้างหน้าได้เช่นกัน ส่วนของด้ามที่อยู่บนแท่นตัดสามารถคลายให้หลวมเพื่อนให้หมุนได้ เมื่อกดสวิทช์ จานเลื่อยจะเริ่มหมุน และมีเสียงดัง ให้ใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากเครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือใช้ตัดและมีคม

การใช้งาน : ตัดไม้ให้ยาวเท่าที่ต้องการและด้วยมุมที่กำหนด (Miters) ที่ปลายของไม้ รอยตัดนี้จะต้องเรียบ เพื่อให้ต่อเข้ากับบัวได้สนิท ใช้บากร่องขวางเสี้ยนไม้เมื่อใช้ทำเฟอร์นิเจอร์หรือตู้

หลักการทำงาน : เลื่อยองศาคือจานที่มีฟัน  งานเลื่อยส่วนใหญ่ใช้ในการต่อเติมบ้านเป็นการตัดแนวขวางไม้ ซึ่งก็คือการตัดให้ได้ความยาวตามต้องการ โดยให้ปลายเป็นมุมฉาก และดูประณีต เนื่องมาจากไม้เป็นวัสดุที่มีเส้นใย เพราะฉะนั้นการตัดจึงหมายถึงการตัดขวางเส้นใยเหล่านี้ แต่ถ้าเป็นการตัดตามความยาวของเส้นใยจะเรียกว่า “การซอยไม้”(Ripping) ซึ่งเป็นการทำให้ไม้มีหน้าแคบลง เลื่อยองศามีความสามารถตัดไม้ได้เท่านั้น ไม่สามารถซอยไม้ได้ และไม่สามารถใช้ตัดไม้อัดได้

ความแตกต่าง: เลื่อยองศาโดยทั่วไปสามารถตัดไม้ได้ ไม่เกินขนาดความยาวของเส้นผ่าศูนย์กลางของจานเลื่อย เลื่อยที่พิเศษขึ้นไปกว่านี้ จะมีแขนที่สามารถเลื่อนได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความกว้างของการตัด และยังมีกลไกที่ทำให้สมารถตัดเอียงได้ บางแบบยังมีระบบเลเซอร์เพื่อช่วยวางแนวการตัดด้วย

ข้อคำนึงด้านความปลอดภัย
                ใส่แว่นตานิรภัยและอุปกรณ์ป้องกันเสียงเมื่อใช้งาน ตัวเรือนที่เป็นรูปจานที่ครอบใบเลื่อยนั้นนเป็นอุปกรณ์ป้องกัน ซึ่งในเลื่อยส่วนใหญ่จะครอบใบเลื่อยไว้จนถึงสุดที่มันต้องสัมผัสกับไม้ แล้วจะหมุนออกไปเมื่อใบเลื่อยเริ่มตัดไม้ จะต้องระวังอย่าไปจับหรือถอดครอบนี้ การใช้เลื่อยโดยไม่ระมัดระวังอาจตัดนิ้วคุณได้ เมื่อคุณติดตั้งหรือเปลี่ยนใบมีด ต้องมั่นใจว่าได้ตัดกระแสไฟฟ้าแล้ว คุณจะต้องระแวดระวังไม่ให้เลื่อยทำงานโดยบังเอิญ ในระหว่างที่กำลังทำการเปลี่ยนหรือติดตั้งอุปกรณ์

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

การเลือกซื้อ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง

เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สิ่งที่เราต้องคำนึงอย่างแรกคือ การนำไปใช้งาน เนื่องจากเครื่องล้างอัดฉีดมีด้วย กันหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแรงดัน ตั้งแต่ 70 Bar 90 Bar 100 Bar 110

Bar 120 Bar จนถึง 200 Bar กันเลยทีเดียว นอกจากจะมีหลาก หลายแรงดันแล้ว ยังต้องดูเรื่องจำนวนการให้น้ำว่ากี่ลิตร/ชั่วโมง และรูปร่างของมอเตอร์ งบประมาณที่เราตั้งเอาไว้ในการที่

จะเป็นเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สักตัว  นอกจากนี้แล้วที่สำคัญที่สุดคือ การรับรองสินค้า (อันนี้สำคัญมาก)
อย่างที่พูดในข้างต้น ควรใช้ (Pressure) แรงดันเท่าไรดี ?
จากความชำนาญของการขายเครื่องฉีดน้ำล้างรถมาพอสมควร ผม มักจะสรุปได้ดังนี้ คือลูกค้ามักเลือกเครื่องฉีดน้ำไปใช้งานไม่ตรงกับ ลักษณะการใช้งานจริงๆ เนื่องจากว่า ซื้อเอาเพราะราคาถูก ก็พอ

คิดว่าไม่แตกต่างกัน สำหรับเครื่องมือช่างอื่นๆ ผมว่าพอทำได้  แต่เครื่องฉีดน้ำเป็นข้อยกเว้น มันเป็นเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับแรงดัน ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่ายถ้าหาก  การผลิต และการ QC มาไม่ดี

พอ (ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผู้เขียนไม่มีนโยบายให้ลูกค้าต้องใช้ของมีราคา)

ผู้ใช้งานเครื่องล้างรถ ให้พิจารณาดังนี้ ว่าเราต้องการเอาไปล้างอะไร เช่นถ้าหากเอาไป ล้างมอไซต์ ล้างพื้นบ้าน(พื้นที่ไม่ใหญ่มาก) ให้พิจารณาเครื่องฉีดน้ำประมาณ  100-120 Bar ก็พอแล้ว เอาที่มี

อัตราการใช้น้ำมากหน่อยลองเปรียบเทียบดู แล้วไปดูว่าประเภทมอเตอร์เป็นระบบใด สำหรับเครื่องฉีดน้ำล้างรถที่ให้แรงดันขนาดนี้จะมีมอเตอร์ให้เลือก 2 รูปแบบด้วยกัน คือ universal

Motor (มีแปรงถ่าน) และอีกชนิดคือ ชนิด  Induction Motor
     สำหรับเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงที่ใช้มอเตอร์ชนิด universal Motor นั้นมีข้อดีคือราคาถูก ข้อเสียคือ จะมีความร้อนสะสมรวดเร็วทำให้ใช้งานต่อเนื่องยาวนานไม่ได้ ใช้ประมาณ 20-25

นาที ต้องพักประมาณ 10-15 นาที และมีเสียงดังมาก ถ้าหากคุณใช้งานตามบ้าน ไม่ได้ใช้งานหนักก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ราคาอยู่ประมาณ 2,xxx - 7,xxx บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และ

คุณลักษณะครับ
     สำหรับเครื่องฉีดน้ำที่ใช้มอเตอร์ชนิด Induction Motor เป็นมอเตอร์ความเร็วรอบต่ำ  ทำให้ความร้อนสะสมน้อย ทำให้ฉีดต่อเนื่องได้ยาวนาน เสียงเงียบ สำหรับผู้ใช้ตามบ้านที่เป็นห่วง

เรื่องเสียงของเครื่องฉีดน้ำ แนะนำให้ใช้เครื่องล้างอัดฉีดที่ใช้มอเตอร์ประเภทนี้ แต่จะต้องแลกมาด้วยค่าตัวของมัน ซึ่งแพงขึ้น มาหน่อย อยู่ราวๆ 6,xxx - 2x,xxxx บาท ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ

แหล่งผลิต วัสดุที่ใช้ในการผลิต และเทคโนโลยี ซึ่งเครื่องล้างอัดฉีดในกลุ่มนี้ มีเทคโนโลยีต่างกันมากมาย สำหรับเครื่องฉีดน้ำล้างรถในกลุ่มนี้
 เพียงเท่านี้ ทุกท่านก็หน้าจะเลือกเครื่องฉีดน้ำล้างรถได้ตรงกับความตั้งใจแล้วนะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558

ปั๊มน้ำชนิดต่างๆ และแนวทางเลือกซื้อปั๊มน้ำ ให้สมควรกับประเภทงาน

"ปั๊มน้ำ" เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการขายกันมานาน และมีพัฒนาการด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของผู้ซื้อ

ปั๊มน้ำ ส่วนมากมีอยู่ 5 หมวด ได้แก่ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ, ปั๊มน้ำกึ่งอัตโนมัติ, ปั๊มหอยโข่ง ปั๊มน้ำบาดาล และปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีลักษณะการใช้งานแตกต่างกันออกไป

ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เหมาะสำหรับการใช้ภายในบ้าน คือ เมื่อมีการหมุนก๊อกน้ำ ปั๊มน้ำจะทำงาน พอเลิกใช้ปั๊มน้ำก็หยุดทำงาน ความจุของปั๊มน้ำอัตโนมัติมีตั้งแต่ 100-400 วัตต์ สำหรับ 100–150 วัตต์

เหมาะกับบ้านที่มีผู้อาศัย 2-3 คน และ ขนาด 400 - 700 วัตต์ สำหรับครัวเรือนใหญ่

ปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ เหมาะสำหรับการดึงน้ำ เช่น ดึงน้ำท่วมบ้าน ดึงน้ำจากบ่อ ปั๊มจุ่มจะมีให้เลือกหลายขนาด ถ้าต้องการให้ดึงน้ำเร็วต้องใช้ตัวที่วัตต์สูง เช่น 200 -250 วัตต์ แต่ถ้าไม่ต้องการดึงน้ำมากๆ ใช้

วัตต์น้อยๆ ก็จะประหยัดได้ด้วย ในการใช้งานติดต่อกันจะใช้ได้แค่ 7 ชั่วโมง ถ้าเกินจากนั้นปั๊มน้ำจะร้อนจัดทำให้มอเตอร์ตัดและใบพัดล็อค เราต้องถอดใบพัดออกมาหมุนกลับเข้าไปใหม่ ก็จะใช้งานได้

อย่างเดิม

ปั๊มหอยโข่ง เหมาะสำหรับกับการดึงน้ำเก็บใส่ถัง เหมือนที่ใช้ในการเกษตรคือส่งน้ำไปไกลๆ หรือดึงน้ำขึ้นไปบนอาคารสูงๆ เพราะปั๊มหอยโข่งจะมีแรงม้าสูง มี 1 แรงม้า 2 แรงม้า แต่ไม่เป็นระบบอัตโนมัติ

ตัวนี้เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องนานๆ

ปั๊มกึ่งอัตโนมัติ จะเหมือนๆ กับปั๊มอัตโนมัติ แต่เราต้องเปิด-ปิดสวิทช์ หรือเสียบปลั๊ก-ถอดปลั๊กใช้งานเอง ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยม ลูกค้าส่วนใหญ่จะนิยมแบบอัตโนมัติไปเลย

ปั๊มน้ำบาดาล เป็นปั๊มน้ำที่ดูดมาใช้ข้างในครัวเรือนหรือใช้ในการเกษตรกรรม

การเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับงานจะช่วยประหยัดเงิน
การเลือกใช้ปั๊มน้ำนั้น ถ้าใช้ในบ้านเราต้องดูจากปริมาณผู้อยู่อาศัยว่าอยู่กันกี่คน เช่น ทาวเฮาส์ 2 ชั้น จะมีแค่ 2-3 ห้องน้ำ เลือกใช้ปั๊มขนาด 100-150 วัตต์ก็เพียงพอ หรือถ้าไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เลือกใช้แค่

100 วัตต์ เราก็สามารถเปิดน้ำพร้อมกันได้ 2-3 จุด แต่ถ้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ควรเพิ่มเป็น 150 วัตต์ ก็เพราะว่าจะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำอุ่นหรือเมื่อเราเปิดก๊อกน้ำหลายจุดโดยพร้อมเพรียง แล้วถ้าเป็นลูกค้า

บ้านเดี่ยวอยากแนะนำให้ใช้ปั๊มขนาด 200–250 วัตต์ เพราะจะเปิดในเวลาเดียวกันได้ถึง 5-6 จุด หรือถ้าติดเครื่องทำน้ำอุ่นถึง 3 ห้องน้ำ ขอชี้ช่องทางให้ใช้แบบ 250 วัตต์ เพราะจะดีตรงที่ช่วย

ประหยัดไฟฟ้าได้ด้วย

อีกอย่างที่ช่วยให้ประหยัดไฟคือการเลือกใช้ฝักบัว ฝักบัวที่น้ำออกมาเป็นฝอยจะช่วยประหยัดน้ำ แต่ถ้าเป็นฝักบัวแบบที่เปิดแล้วน้ำออกมาเป็นสายอย่างนี้จะเปลืองน้ำกว่า ไม่ประหยัดน้ำเพราะน้ำจะไหล

ออกมาเร็วเกินไป และกินไฟเพิ่มมากขึ้นเพราะมอเตอร์ปั๊มน้ำจะทำงานต่อเนื่องไม่ตัด ดังนั้นการที่เราเลือกฝักบัวหรือสายฉีดชำระที่มีความละเอียดเวลาน้ำออกมา มอเตอร์จะไม่ทำงานหนักเพราะตัดได้

บ่อยไม่ทำงานต่อเนื่อง แบบนี้จะดีในการเลือกใช้

การติดตั้งปั๊มน้ำอย่างถูกกรรมวิธีช่วยประหยัดพลังงาน
ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ไม่แนะนำให้ติดตั้งแบบดึงตรง (by pass) แนะนำให้ต่อกับแท็งก์น้ำ (ติดตั้งแท็งก์น้ำเพิ่ม) แล้วให้ปั๊มดึงน้ำจากแท็งก์เข้าบ้านตรงนี้จะช่วยประหยัดไฟกว่าเป็นพิเศษ อีกอย่าง

คือการติดตั้งแท็งก์น้ำจะช่วยให้น้ำใช้หรือน้ำฝักบัวของเราไม่มีตะกอน เนื่องจากเวลาที่น้ำเข้าแท็งก์ตัวตะกอนจะตกลงก้นแท็งก์ก่อน เวลาใช้ปั๊มดึงก็จะได้น้ำสะอาดออกมา ทีนี้ก็ช่วยประหยัดน้ำ-ประหยัดไฟ

ได้เยอะเลย...

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

เครื่องมือช่างเป็นวัสดุอุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน ที่ต้องมีไว้ติดบ้าน

เครื่องมือช่าง เป็นวัสดุอุปกรณ์สำหรับช่วยทุ่นเเรงในการปฏิบัติงานเเละกระทำวัตถุโดย มีเพิ่มกำลังหรือขีดจำกัดความสามารถเฉพาะของมนุษย์ ทำให้มีความสะดวกเเละช่วยให้การทำ

งานรวดเร็วมากขึ้น ต่อมามนุษย์ได้ดัดเเปลงเครื่องมือต่างๆเหล่านี้เป็นเครื่องมือกลทางไฟฟ้าที่มีกำลังมากขึ้นหลายเท่าจากเครื่องมือธรรมดา ตัวอย่างเช่น สว่านไฟฟ้า เครื่องเจียร

เครื่องตัด เลื่อยวงเดือน

ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือโรงงานประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม มีเครื่องมือช่างขนาดเล็กหลายแบบ ซึ่งแตกต่างกันทั้งประเภท รูปร่าง และการใช้งาน สิ่งจำเป็นในการปฏิบัติงาน

ช่างคือ เครื่องมือนั่นเอง แม้ว่าช่างจะมีฝีมือดีเพียงใด แต่ถ้าเครื่องมือไม่พร้อมที่จะทำงานก็เชื่อว่า ขบวนการการทำงานช่าง การผลิต การซ่อมแซม การบำรุงรักษา หรือการประกอบ

ติดตั้งได้ผลงานดีไม่ได้ ดังนั้นควรจะรู้จักการใช้เครื่องมือ การเก็บบำรุงรักษาที่ถูกวิธี โดยเน้นให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน เพราะหากนำไปใช้ผิดชนิด ขาดความรอบคอบ และไม่

ทราบถึงคุณสมบัติการใช้งานเฉพาะตัวของเครื่องมือ จะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นควรทราบแนวทางปฏิบัติที่จำเป็น เพื่อเตรียมพร้อมในการลง

มือทำงานต่อไป

ชนิดของงานช่าง
งานช่าง  คือ  งานที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง  ซ่อมแซม  บำรุงรักษา  หรือดัดแปลงวัสดุหรือเศษวัตถุให้เป็นสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทำให้เครื่องใช้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น  และช่วย

ประหยัดค่าครองชีพภายในบ้านได้อีกด้วย

เป็นที่ตกลงกันโดยทั่วไปว่าเครื่องมือ เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการปฏิบัติงานช่าง  เพราะเครื่องมือเป็นสิ่งที่ ช่วยผ่อนแรงในการทำงาน  และช่วยให้งานสำเร็จตามแผนการ งานที่

ออกมาดี  สวยงาม  เป็นที่อยากได้ของผู้ใช้  โดยเราต้องรู้จักมักคุ้นการใช้เครื่องมืออย่างถูกทาง  และเหมาะสมกับประเภทของงาน  ดังนั้นในการใช้เครื่องมือจึงถือเป็นวิธีการอย่างหนึ่ง

ที่สำคัญในการทำงานช่าง แต่จะกล่าวเฉพาะเครื่องมือที่จำเป็นและใช้เป็นประจำในยุคปัจจุบันดังนี้

1. สว่านไฟฟ้า ใช้เจาะรูขนาดต่าง ๆ  ต้องใช้ควบคู่กับดอกสว่าน (ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงาน)
2. ดอกจำปา ใช้ไขหัวสว่าน ในการใส่ดอกสว่านให้กระชับ
3. ดอกสว่าน ใช้เจาะรูกลม ๆ  ขนาดต่าง ๆ
4. ไขควงเช็คไฟ ใช้ตรวจวงจรไฟฟ้าจุดต่าง ๆ ว่ามีกระแสไฟฟ้าหรือไม่
5. ไขควงปากแบน  หรือปากตรง ใช้ขันสกรูหัวแบน
6. ไขควงปากแฉก ใช้ขันสกรูหัวสี่แฉก
7. ประแจแหวน ใช้ขันน็อตหกเหลี่ยม
8. ประแจแหวน และประแจปากตาย  ใช้ขันน็อตหัวหกเหลี่ยม และหัวสี่เหลี่ยม
9. คีมตัดสายไฟ ใช้ตัดสายไฟฟ้าขนาดต่าง ๆ  ตามต้องการ
10. คีมตัดและคีมจับ ใช้ปลายปากจับชิ้นงาน และด้านในใช้ตัดสายไฟ
11. คีมปากจิ้งจก ใช้ตัดและจับชิ้นงานเล็ก ๆ
12. คีมปากนกแก้ว ใช้ตัดลวด และใช้ผูกลวดกับเหล็ก
13. ประแจเลื่อน ใช้จับชิ้นงาน
14. คีมล็อค ใช้จับชิ้นงานต่าง ๆ ที่มีความเสถียรมาก
15. กรรไกรตัดเหล็ก ใช้ตัดงานโลหะแผ่น
16. รีเวดร์ ใช้ยึดจับชิ้นงานโลหะ 2 ชิ้น เข้าด้วยกัน
17. ค้อนเหลี่ยมสันขวาง ใช้ตอกตะปูเข็มขัดรัดสายไฟฟ้า
18. ค้อนหงอน ใช้ตอกตะปูงานช่างไม้
19. ค้อนหัวยาง ใช้งานโลหะแผ่น
20. เลื่อยเหล็ก ใช้ตัดโลหะ
21. เลื่อยลันดา ใช้ตัดไม้ขนาดต่าง ๆ
22. คัตเตอร์ ใช้ตัดของต่างๆ และใช้ปอกสายไฟฟ้า
23. เหล็กฉาก ใช้วัดให้ได้มุมฉาก ใช้ในการตัดไม้หรือเหล็ก
24. เกรียง ใช้ขูดสีต่าง ๆ   ออกจากชิ้นงาน
25. ที่วัดระดับน้ำ ใช้ปรับพื้นผิวต่าง ๆ ให้ได้ระดับเดียวกัน
เครื่องมือช่างที่คนเขียนแนะนำมา เป็นเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของเครื่องมือช่างเท่านั้น ยังมีเครื่องมือช่างอีกเยอะแยะ หลายประเภท ซึ่งคนเขียนแนะนำเสนอในเว็บต่อไป...

แนะนำวิธีซื้อ ปั๊มลม (Air Compressor)

ปั๊มลม หรือ เครื่องปั๊มลม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "Air Compressor" ใช้ในการอัดลมให้มีแรงดันสูงตามที่ เราอยากเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และประยุคใช้ได้หลายด้าน เช่นงานที่เป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็ก ตลอดจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่  ระบบนิวเมติกส์ และอุตสาหกรรมครัวเรือน เช่นบริษัทซ่อมรถ ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องสูบลมลักษณะลูกสูบ  (Piston Air Compressor) เพราะใช้แรงดัน (Pressure) ไม่สูงมาก เป็นต้น ส่วนเครื่องสูบลมที่ใช้ในโรงงานส่วน มากนั้นส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็นปั๊มลมขนาดเล็กประเภทสกรู (Screw Air Compressor) ซึ่งจะใช้แรง ลมที่มากกว่า

แนะนำการซื้อปั๊มลมขนาดเล็ก
เราต้องเลือกดูงานที่เราจะใช้ เราต้องการปั้มที่แรงดันมากน้อยแค่ไหน ปริมาณลมที่ต้องการมาก ความต่อเนื่องของงาน และปริมาณการจ่ายลม ลมที่ใช้ต้องสะอาดระดับ ไหน เช่น การใช้ทำงานของช่างไม้ ใช้ปั้มลูกสูบ อาจจะต้องการแรงลมมากพอสมควร อาจจะข้อแตกต่างเรื่องความต่อเนื่องของงาน ทำให้ ขนาดของถังบรรจุลมที่ใหญ่ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง เครื่องก็จะไม่ต้องทำงานหนักคือปั้มทำงานบ่อย การที่ความดัน หรือปริมาณลมลดต่ำลง หรือ จะใช้ปั้มลมกับแอร์บลัช บริเวณการใช้งานมีส่วนสำคัญ เช่น บริเวณชุมชน บ้านพักอาศัย อาจก่อให้เกิดความรำคาญได้ ความแตกต่าง ระหว่าง ปั้มลมสายพาน กับโรตารี่  (Rotary) ปั้มลมสายพานจะเสียงเบากว่าปั้มลม โรตารี่ (Rotary) ถ้าหากต้องการลมที่มีความสะอาด ใช้ปั้มลมแบบ ไดอะเฟรม เพราะลมจะไม่ได้สัมผัสกับ โลหะเลย แต่ให้แรงลมน้อย ใช้กับอุดสาหกรรมเคมี อาจมีอาการลมชะงักบ้าง ส่วนปั้มลมแบบสกรูเราจะพบเห็นตามโรงงาน เป็นจำนวนมาก ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ เป็นต้น

วิธีเลือกเครื่องปั๊มลมใช้เองที่บ้าน
โดยที่เครื่องปั๊มลมที่คนส่วนใหญ่นิยมสูงสุดคือ ปั๊มลมขนาดเล็กแบบลูกสูบ  (PISTON COMPRESSOR) มีหลายยี่ห้อเช่น TRYTON,OKURA, PUMA, SWAN, RAMBO, ROWEL, ANTO
ให้เราเลือกจากการใช้งานของเรา
1. แรงดันลมที่คุณเลือกใช้งาน
2. ปริมาณแรงลมที่ใช้ต่อเนื่อง
3. สถานที่ใช้งาน เนื่องจากปั้มลมแต่ละแบบ จะมีเสียงดังไม่เท่ากัน
4. ลมที่ใช้งานมีความสะอาดขนาดไหน

ปั๊มลมสามารถแบ่ง 6 ตระกูล
1. เครื่องสูบลมหรือ ปั๊มลมขนาดเล็กแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR)
2. เครื่องปั๊มลมหรือ เครื่องสูบลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR)
3. เครื่องสูบลมหรือ เครื่องสูบลมแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR)
4. เปั้มลมหรือ ปั๊มลมขนาดเล็กแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR)
5. ปั้มลมหรือ ปั้มลมแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR)
6. เครื่องปั๊มลมหรือ เครื่องปั๊มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR)

วันจันทร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2558

มาทำความรู้จักปั๊มน้ำพร้อมด้วยจุดดีของปั๊มน้ำกันเถอะ

ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างหรือวัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้าอีกแบบหนึ่งที่ใช้มาก ในอุตสาหกรรมและ ตามบ้านเรือน โดยเจาะจงตามที่พักอาศัยซึ่งเป็นอาคารชุด ตามอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือในบางพื้นที่ที่ต้องการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้
ดังนั้นการรู้จักมักจี่ซื้อ รู้จักวิธีใช้และการติดตั้ง “ปั๊มน้ำ” อย่างถูกวิธีจะไม่ก่อให้ เกิดการรั่วไหลและเปลืองพลังงานและเป็นการใช้ไฟฟ้าและใช้น้ำอย่างมี ศักยภาพ และราคาปั๊มน้ำที่ถูกลงมาก

พรรณของปั๊มน้ำ (ตามลักษณะการทำงาน)
ปั๊มแบบใบพัด
ปั๊มน้ำประเภทนี้ภายในเรือนปั๊ม จะมีใบพัด ปฏิบัติหน้าที่สร้างความดัน จากการหมุนที่ความเร็วรอบสูงและแรงดันทำให้ น้ำไหลไปตามท่อที่ต่อไว้ได้ นิยมนำมาใช้ใน อุตสาหกรรมและตามที่อยู่อาศัยทั่วไป เพราะ การไหลของนาจะต่อเนื่องสม่ำเสมอ

เครื่องปั๊มน้ำแบบลูกสูบ
ปั้มน้ำวิธานี้เรือนปั๊มเป็นกระบอกสูบ ภายในจะมีลูกสูบ ทำหน้าที่สร้างความดันจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ทำให้ความจุของ กระบอกสูบลดลงเกิดเป็นความดันเพื่อขับดันนาให้ไหลไปได้ แต่การไหลของนา จะเป็นช่วงๆ ตามจังหวะการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ส่วนใหญ่นำไปใช่ในงาน ที่ต้องการความดันสูง

การทำงานของปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำที่ใช้ข้างในบ้านเป็นชนิดที่มี ใบพัดภายในหัวปั๊มหรือเรือนปั๊ม  ใบพัดเป็นตัวสร้างความดันเพื่อ ขับดันให้น้ำไหลไปได้โดยมีชุดสวิตซ์ความ ดันเป็นวัสดุควบคุมการทำงานของ ปั๊มน้ำ ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ จะต่อโดยตรงกับจุดใช้น้ำ เช่นฝักบัว ก๊อกน้ำ ชักโครก เป็นต้น ดังนั้นเมื่อเราเปิดฝักบัวหรือก๊อกน้ำ น้ำจะ ไหลออกจากท่อหรือระบบทำให้ความดัน ภายในท่อลดลงส่งผลให้เกิดการดัดต่อของ สวิตซ์ความดัน ปั๊มน้ำจึงทำงาน
การเปิดก๊อกน้ำมีผลต่อการทำงาน ของปั๊มน้ำเป็นอย่างมาก ถ้าเราเปิดก๊อก น้ำเพียง ตัว และน้ำไหลไม่แรงมากแล้ว การทำนจะไม่ตัดต่อบ่อยเพราะยังมี ความตันเหลืออยู่ในเส้นท่อมาก แต่ถ้าเรา เปิดก๊อกให้น้ำไหลแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่าให้ความดันสูญเสียเร็วขึ้นปั๊มน้ำก็จะ ท่างานบ่อยมากขึ้น ตังนั้นเพื่อเป็นการ ออมน้ำและไฟฟ้าควรเปิดก๊อกน้ำใช้ตามความจำเป็น แต่ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องเปิดใช้น้ำหลายจุด พร้อมกัน เช่น ใช้ฝักบัวอาบน้ำพร้อมกับล้างจานและรดน้ำต้นไม้ จะทำให้ปั๊มน้ำทำงานทุกเมื่อเชื่อวัน ดังนั้นการใช้น้ำในแต่ละจุดจึงไม่ควร เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้เป็นนิสัย

สว่านไฟฟ้า คืออะไร ใช้งาน ยังไง ดูแลรักษาอย่างใด

สว่านไฟฟ้า เป็น อุปกรณ์ช่างที่ไม่ควรขาด
สว่าน คือเครื่องมืองช่างชนิดหนึ่ง ใช้สำหรับเจาะรูบนวัสดุหลายประเภท เป็นอุปกรณ์ช่างที่ใช้ตลอดในงานไม้และงานโลหะ ประกอบด้วยส่วนสำคัญคือดอกสว่านที่หมุนได้
ดอกสว่านดึงอยู่กับเดือยด้านหนึ่งของสว่าน และถูกกดลงไปบนอุปกรณ์ที่ต้องการจากนั้นจึงถูกทำให้หมุน ปลายดอกสว่านจะทำงานเป็นตัวตัดเจาะวัสดุ กำจัดเศษวัสดุระหว่างการเจาะ (เช่น ขี้เลื่อย) หรือทำงานเป็นตัวสูบอนุภาคเล็กๆ (เช่นการเจาะน้ำมัน)
สว่านไฟฟ้า มีรูปพรรณสัณฐาน คล้ายปืน มีด้ามจับในรูปร่างเดียวกันกับปืน ส่วนด้านปลายแหลมนั้นจะมีรูปแบบคล้ายไม้ตะเกียบกลมๆ เรียกว่าดอกสว่าน โดยดอกสว่านนั้นจะเป็นแท่งยาวๆ แท่งนั้น จะมีรูปร่างเป็นเกลียว ปลายแหลมคล้ายดินสอ ซึ่งดอกสว่านจะมีหลากหลายสัดส่วน แต่ละขนาดก็เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละอย่าง(ซึ่งผมจะมาแนะนำการใช้งานอีกครั้ง) มีสายไฟสำหรับรับกระแสไฟฟ้าในการใช้งาน  ส่วนตัวจับนั้น จะมีหน้าตาเป็นปุ่มคล้ายปืนฉีดน้ำ เอาไว้บังคับหรือกดให้อุปกรณ์ช่างไม้ทำงานได้นั่นเอง

สว่านไฟฟ้า และข้อพึงระวังในการใช้งาน
การใช้งานสว่านไฟฟ้านั้น ก่อนการใช้งานควรจะสำรวจให้แน่ใจว่าสว่านไฟฟ้าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ เวลาจะใช้งานควรจะต้องเตรียมเครื่องมืองช่างป้องกันให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นแว่นตาป้องกัน และชุดป้องกันอันตราย เมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อย ควรทำความสะอาด และมีการตรวจตราสว่านไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ แล้วเก็บรักษาไว้ในกล่องอุปกรณ์เครื่องมือช่างไว้ให้มิดชิด

ข้อบกพร่องที่มักจะพบบ่อยๆของสว่านไฟฟ้า
โดยมากสว่านไฟฟ้ายี่ห้อดีๆหน่อยมักจะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ข้อเสียที่พบส่วนมากมักเป็นยี่ห้อเกรดรองๆลงมา อุปสรรคที่พบมักจะเป็นเรื่อง มอเตอร์ไหม้ เพราะใช้งานไม่ถูกประเภท ทุ่นสึก หรือ ปัญหาแปรงถ่านหมด ถ้าเป็นยี่ห้อ มาตรฐานการหาร้านซ่อมไม่ใช่เรื่องยาก

เทคนิคการใช้สว่าน    
- ก่อนที่จะเจาะทุกครั้งควรใช้เหล็กตอกนำศูนย์ตรงจุดที่ต้องการเจาะ เพื่อให้ดอกสว่านลงถูกตำแหน่ง
- ควรจับเครื่องเจาะให้กระชับและตรงจุดที่เจาะ  
- การเจาะต้องออกแรงกดให้สัมพันธ์กับการหมุน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
- ในการเจาะชิ้นงานให้ทะลุทุกชนิดจะต้องมีวัสดุรองรับชิ้นงานเสมอ
- ควรเลือกใช้ดอกสว่านให้เข้าทีกับขนาดของชิ้นงาน      
- ไม่ควรใช้ดอกสว่านผิดแบบ เช่น ดอกสว่านเจาะคอนกรีตไม่ควรนำไปเจาะเหล็ก เป็นต้น

การจัดเก็บและบำรุงรักษา  
-  ตรวจสอบซ่อมสว่านให้มีสภาพการใช้งานได้อย่างมีศักยภาพ
- ชำระล้างหลังการใช้งานทุกครั้ง    
- ถ้าจะนำไปเก็บให้ชโลมนำมันเครื่องใสเป็นประจำ

การเลือกซื้อ เครื่องฉีดน้ำล้างรถ

เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สิ่งที่เราต้องทบทวนอย่างแรกคือ การนำไปใช้งาน เพราะว่าเครื่องล้างอัดฉีดมีด้วย กันหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแรงดัน ตั้งแต่ 70 Bar 90 Bar 100 Bar 110 Bar 120 Bar จนถึง 200 Bar กันเลยทีเดียว นอกจากจะมีหลาก หลายแรงดันแล้ว ยังต้องดูเรื่องปริมาณการให้น้ำว่ากี่ลิตร/ชั่วโมง และประเภทของมอเตอร์ งบประมาณที่เราตั้งเอาไว้ในการที่จะเป็นเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง สักตัว  นอกจากนี้แล้วที่สำคัญที่สุดคือ การประกันสินค้า (อันนี้สำคัญมาก)
อย่างที่กล่าวในข้างต้น ควรใช้ (Pressure) แรงดันเท่าไรดี ?
จากความช่ำชองของการขายเครื่องฉีดน้ำล้างรถมาพอสมควร ผม มักจะสรุปได้ดังนี้ คือลูกค้ามักใช้งานเครื่องฉีดน้ำไปใช้งานไม่ตรงกับ ลักษณะการใช้งานจริงๆ เพราะ ซื้อเอาเพราะราคาถูก ก็พอ คิดว่าไม่แตกต่างกัน สำหรับเครื่องมือช่างอื่นๆ ผมว่าพอทำได้  แต่เครื่องล้างรถเป็นข้อยกเว้น มันเป็นเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับแรงดัน ทำให้เกิดความเสียหายได้ง่ายถ้าหาก  การผลิต และการ QC มาไม่ดีพอ (ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า คนเขียนไม่มีนโยบายให้ลูกค้าต้องใช้ของมีราคา)

ผู้ใช้งานเครื่องล้างอัดฉีด ให้พิจารณาดังนี้ ว่าเราต้องการเอาไปชำระล้างอะไร เช่นถ้าหากเอาไป ล้างรถ ล้างพื้นบ้าน(พื้นที่ไม่ใหญ่มาก) ให้พิจารณาเครื่องล้างอัดฉีดประมาณ  100-120 Bar ก็พอแล้ว เอาที่มีอัตราการใช้น้ำมากหน่อยลองเปรียบเทียบดู แล้วไปดูว่าลักษณะมอเตอร์เป็นระบบใด สำหรับเครื่องล้าง รถที่ให้แรงดันขนาดนี้จะมีมอเตอร์ให้เลือก 2 รูปแบบด้วยกัน คือ universal Motor (มีแปรงถ่าน) และอีกชนิดคือ ชนิด  Induction Motor
     สำหรับเครื่องล้างอัดฉีดที่ใช้มอเตอร์ชนิด universal Motor นั้นมีข้อดีคือราคาถูก ข้อบกพร่องคือ จะมีความร้อนสะสมรวดเร็วทำให้ใช้งานต่อเนื่องยาวนานไม่ได้ ใช้ประมาณ 20-25 นาที ต้องพักโดยประมาณ 10-15 นาที และมีเสียงดังมาก ถ้าหากคุณใช้งานตามบ้าน ไม่ได้ใช้งานหนักก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี ราคาอยู่ประมาณ 2,xxx - 7,xxx บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และ คุณลักษณะครับ
     สำหรับเครื่องฉีดน้ำที่ใช้มอเตอร์ชนิด Induction Motor เป็นมอเตอร์ความเร็วรอบต่ำ  ทำให้ความร้อนสะสมน้อย ทำให้ฉีดต่อเนื่องได้ยาวนาน เสียงเงียบ สำหรับผู้ใช้ตามบ้านที่เป็นห่วงเรื่องเสียงของเครื่องฉีดน้ำ แนะนำให้ใช้เครื่องฉีดน้ำที่ใช้มอเตอร์ประเภทนี้ แต่จะต้องแลกมาด้วยค่าตัวของมัน ซึ่งแพงขึ้น มาหน่อย อยู่ราวๆ 6,xxx - 2x,xxxx บาท ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ แหล่งผลิต วัสดุที่ใช้ในการผลิต และเทคโนโลยี ซึ่งเครื่องฉีดน้ำในกลุ่มนี้ มีเทคโนโลยีต่างกันมากมาย สำหรับเครื่องล้างรถในกลุ่มนี้
 เพียงเท่านี้ ทุกท่านก็หน้าจะเลือกเครื่องฉีดน้ำได้ตรงกับความประสงค์แล้วนะครับ

การเลือกสรรซื้อปั๊มลมและลักษณะปั๊มลม

ปั๊มลมสามารถแบ่งแยกเป็น 6 ประเภท
1. ปั๊มลมแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR)
เป็นเครื่องอัดลมหรือปั๊มลมที่นิยมใช้ถือว่าเป็นปั๊มลมที่ใช้กันมากที่สุดเนื่องจากศักยภาพอัดลม คือสร้างความดันหรือแรงดันได้ตั้งแต่ 1บาร์ (bar)ไล่ระดับไปจนถึงเป็นพันบาร์(bar) ทำให้ปั๊มลมแบบลูกสูบทำได้ตั้งแต่ความดันต่ำ ความดันปานกลาง จนไปถึงความดันสูง มีแบบใช้สายพาน จะให้เสียงเงียบกว่าแบบ โรตารี่ ที่มีมอเตอร์ในตัว จุดดีของโรตารี่คือได้ลมใช้งานที่รวดเร็วกว่าแบบสายพาน
2.ปั้มลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR)
เป็นที่นิยมในโรงงาน ตัวเครื่องมีการผลิตที่มีคุณภาพสูงในการผลิตโรเตอร์ ตัวเครื่องจะ ไม่มีลิ้นในการเปิดปิด แต่ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดีออกจากปั้มมีทั้งระบบระบายความร้อนด้วยอากาศหรือใช้น้ำระบายความร้อนหากเป็นเครื่องขนาดใหญ่ ปั้มลมจะสามารถจ่ายลม 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) อีกทั้งสร้างความดันได้ถึง 10 บาร์
3. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR)
เป็นปั๊มลมที่ใช้ตัวไดอะแฟรมทำให้การทำหน้าที่ของลูกสูบและหัวดูดอากาศแบ่งออกจากกัน ดังนั้นลมที่ถูกดูดเขาในปั๊ม หรืออัดอากาศ จะไม่ได้มีการโดนหรือสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ และลมที่ได้จะไม่มีการผสมน้ำมันหล่อลื่นแต่จะไม่สามารถสร้างแรงดันได้สูง ข้อดีคือลมที่ได้จากปั๊มประเภทนี้จึงมีความเสถียรมากและมักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเคมี และอาจะใช้ในการอุสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำเนื่องจากเสียงที่เบากว่าแบบลูกสูบ
4. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR)
ราคาปั๊มลมชนิดนี้ข้อดีคือเสี่ยงจะไม่ดังการทำงานของการหมุนจะเรียบมีความต่อเนื่องการอัดอากาศคงที่ ไม่มีลิ้นหรือวาวล์ในการเปิดปิดในพื้นที่จำกัดทำให้ไวต่อความร้อน หากต้องการประสิทธิภาพที่ดีจะต้องผลิตด้วยความประณีต สามารถกระจายลม 4-100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) ส่วนความดันทำได้ที่ 4-10 บาร์(Bar)
5. ปั้มลมแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR)
เครื่องปั๊มลมนี้จะมีใบพัดหมุน 2 ตัว เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน ภูมิอากาศจะถูกดูดจากฝากหนึ่งไปยังอีกฝากหนึ่ง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงขนาด ทำให้อากาศไม่ถูกบีบหรืออัดตัว แต่อากาศจะถูกอัดตัวก็ต่อเมื่ออากาศได้ถูกส่งเข้าไปยังถังเก็บลม ปั้มลมแบบนี้ทุนการผลิตจะแพง ไม่มีลิ้น ไม่ต้องการหล่อลื่นขณะที่ทำงาน แต่ต้องมีการระบายความร้อนที่ดี
6. ปั้มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR)
ขายปั๊มลมปั้มลมแบบนี้จะได้อัตราการจ่ายลมที่มาก ประเภทเป็นใบพัดกังหันดูดเข้ามาจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งด้วยการหมุนความเร็วสูง ลักษณะใบพัดจึงมีส่วนสำคัญเรื่องอัตราการจ่ายลมด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558

ปั๊มน้ำชนิดต่างๆ และแนวทางเลือกซื้อปั๊มน้ำ ให้เหมาะกับชนิดงาน

"ปั๊มน้ำ" เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันมานาน และมีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีอย่างสม่ำเสมอเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของลูกค้า

ปั๊มน้ำ โดยมากมีอยู่ 5 ชนิด ได้แก่ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ, ปั๊มน้ำกึ่งอัตโนมัติ, ปั๊มหอยโข่ง ปั๊มน้ำบาดาล และปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีลักษณะการใช้งานแตกต่างกันออกไป

ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ควรสำหรับการใช้ภายในบ้าน คือ เมื่อมีการหมุนก๊อกน้ำ ปั๊มน้ำจะทำงาน พอเลิกใช้ปั๊มน้ำก็หยุดทำงาน ความจุของปั๊มน้ำอัตโนมัติมีตั้งแต่ 100-400 วัตต์ สำหรับ 100–150 วัตต์ เหมาะกับบ้านที่มีผู้อาศัย 2-3 คน และ ขนาด 400 - 700 วัตต์ สำหรับตระกูลใหญ่

ปั๊มจุ่มหรือปั๊มแช่ เหมาะสำหรับการดึงน้ำ เช่น ดึงน้ำท่วมบ้าน ดึงน้ำจากบ่อ ปั๊มจุ่มจะมีให้เลือกหลายขนาด ถ้าต้องการให้ดึงน้ำเร็วต้องใช้ตัวที่วัตต์สูง เช่น 200 -250 วัตต์ แต่ถ้าไม่ประสงค์ดึงน้ำมากๆ ใช้วัตต์น้อยๆ ก็จะประหยัดได้ด้วย ในการใช้งานติดต่อกันจะใช้ได้แค่ 7 ชั่วโมง ถ้าเกินจากนั้นปั๊มน้ำจะร้อนจัดทำให้มอเตอร์ตัดและใบพัดล็อค เราต้องถอดใบพัดออกมาหมุนกลับเข้าไปใหม่ ก็จะใช้งานได้อย่างเดิม

ปั๊มหอยโข่ง เหมาะสำหรับกับการดึงน้ำเก็บใส่ถัง เหมือนที่ใช้ในการเกษตรคือส่งน้ำไปไกลๆ หรือดึงน้ำขึ้นไปบนอาคารสูงๆ เนื่องจากปั๊มหอยโข่งจะมีแรงม้าสูง มี 1 แรงม้า 2 แรงม้า แต่ไม่เป็นระบบอัตโนมัติ ตัวนี้เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องนานๆ

ปั๊มกึ่งอัตโนมัติ จะเหมือนๆ กับปั๊มอัตโนมัติ แต่เราต้องเปิด-ปิดสวิทช์ หรือเสียบปลั๊ก-ถอดปลั๊กใช้งานเอง ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่นิยม ลูกค้าส่วนใหญ่จะนิยมแบบอัตโนมัติไปเลย

ปั๊มน้ำบาดาล เป็นปั๊มน้ำที่ดูดมาใช้ข้างในครัวเรือนหรือใช้ในการเกษตรกรรม

การเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับงานจะช่วยประหยัดเงิน 
การเลือกใช้ปั๊มน้ำนั้น ถ้าใช้ภายในบ้านเราต้องดูจากปริมาณผู้อยู่อาศัยว่าอยู่กันกี่คน เช่น ทาวเฮาส์ 2 ชั้น จะมีแค่ 2-3 ห้องน้ำ เลือกใช้ปั๊มขนาด 100-150 วัตต์ก็พอ หรือถ้าไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เลือกใช้แค่ 100 วัตต์ เราก็สามารถเปิดน้ำในเวลาเดียวกันได้ 2-3 จุด แต่ถ้าใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ควรเพิ่มเป็น 150 วัตต์ เพราะว่าจะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำอุ่นหรือเมื่อเราเปิดก๊อกน้ำหลายจุดในเวลาเดียวกัน แล้วถ้าเป็นลูกค้าบ้านเดี่ยวอยากแนะนำให้ใช้ปั๊มขนาด 200–250 วัตต์ เพราะจะเปิดควบกันได้ถึง 5-6 จุด หรือถ้าติดเครื่องทำน้ำอุ่นถึง 3 ห้องน้ำ ขอแนะนำให้ใช้แบบ 250 วัตต์ เพราะจะดีตรงที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วย

อีกอย่างที่ช่วยให้ประหยัดไฟคือการเลือกใช้ฝักบัว ฝักบัวที่น้ำออกมาเป็นฝอยจะช่วยประหยัดน้ำ แต่ถ้าเป็นฝักบัวแบบที่เปิดแล้วน้ำออกมาเป็นสายอย่างนี้จะเปลืองน้ำกว่า ไม่ประหยัดน้ำเพราะน้ำจะไหลออกมาเร็วเกินไป และกินไฟเยอะขึ้นเพราะมอเตอร์ปั๊มน้ำจะทำงานต่อเนื่องไม่ตัด ฉะนั้นการที่เราเลือกฝักบัวหรือสายฉีดชำระที่มีความละเอียดเวลาน้ำออกมา มอเตอร์จะไม่ทำงานหนักเพราะตัดได้บ่อยไม่ทำงานต่อเนื่อง แบบนี้จะดีในการเลือกใช้

การติดตั้งปั๊มน้ำอย่างถูกวิธีช่วยประหยัดพลังงาน
ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ไม่แนะนำให้ติดตั้งแบบดึงตรง (by pass) แนะนำให้ต่อกับแท็งก์น้ำ (ติดตั้งแท็งก์น้ำเพิ่ม) แล้วให้ปั๊มดึงน้ำจากแท็งก์เข้าบ้านนี้จะช่วยประหยัดไฟกว่าเป็นพิเศษ อีกอย่างคือการติดตั้งแท็งก์น้ำจะช่วยให้น้ำใช้หรือน้ำฝักบัวของเราไม่มีตะกอน เพราะว่าเวลาที่น้ำเข้าแท็งก์ตัวตะกอนจะตกลงก้นแท็งก์ก่อน เวลาใช้ปั๊มดึงก็จะได้น้ำสะอาดออกมา ต่อนี้ไปก็ช่วยประหยัดน้ำ-ประหยัดไฟได้เยอะเลย...

ยักยอกคนทั้งจังหวัด บุกจับร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่งจดหมายลวง

ยักยอกคนทั้งจังหวัด บุกจับร้านขายเครื่องมือช่างไฟฟ้า ส่งจดหมายลวง
รองผวจ.ลุยเองนำ จนท.และชาวบ้าน บุกร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ส่ง จม.ไปหลอกให้มารับรางวัล พอมาที่ร้านก็หว่านล้อมให้จับสลาก แล้วเรียกเก็บภาษี 38% แต่ของที่ได้ไม่ดีไม่สมราคา และไม่ยอมให้คืน บ่งเป็นการหลอกลวงเข้าข่ายหลอกลวง...

เหตุที่มีชาวบ้านนับร้อยรายเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดสุพรรณบุรี (สคบ.) ว่าถูกบริษัท เอ เอ็น ซี. อิเล็กทริก แอนท์คอนสตั๊กชั่น ตั้งอยู่ที่เลขที่ 64/27-28 ริมถนนเณรแก้ว ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี ส่งจดหมายไปที่บ้าน โดยในจดหมายระบุว่า ชาวบ้านได้รับรางวัลเป็นเครื่องมือช่างไฟฟ้าชนิดต่างๆ ให้เดินทางมารับ พร้อมทั้งได้สิทธิ์จับสลาก เพื่อลุ้นรับเครื่องไฟฟ้าชิ้นใหญ่ ฟรี มูลค่าเกือบแสนบาท

ทั้งนี้ ทางร้านมีข้อแม้ให้ผู้โชคดีรายนั้นต้องเสียภาษีจำนวน 38 เปอร์เซ็นต์ จากราคาสินค้าที่ตั้งไว้ แต่สินค้าที่ได้กลับเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ สร้างความกลุ้มใจเสียหายให้กับชาวบ้าน จึงพากันมาเข้าร้องทุกข์

ภายหลังเมื่อตอนบ่ายของวันที่ 15 ม.ค. 58 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รอง ผวจ.สุพรรณบุรี จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ปกครอง ทหาร กอ.รมน. ตำรวจ พนักงาน สคบ. พาณิชย์ และอุตสาหกรรมจังหวัด กว่า 50 นาย พร้อมผู้เสียหายจำนวนหนึ่งเดินทางไปที่บริษัทดังกล่าว พบเป็นตึกแถว 2 ชั้น ภายในเป็นห้องกระจก จัดเป็นโชว์รูมจัดจำหน่ายเครื่องมือช่างไฟฟ้า มีสินค้าวางโชว์ไว้เป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่ามีพนักงานในร้านจำนวน 6 คน คอยให้บริการ แต่ไม่มีการจดทะเบียนพาณิชย์เพื่อประกอบธุรกิจแต่ประการใด

นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี รอง ผวจ.เปิดเผยว่า บริษัทแห่งนี้มีวิธีการดำเนินการคือจะส่งจดหมายไปทุกครัวเรือนทั่ว จ.สุพรรณบุรี ว่าได้รับรางวัลเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือช่างฟรี เมื่อชาวบ้านเชื่อมาที่ร้านค้า กลับได้รับแค่หม้อนึ่งขนาดเล็กราคาแค่ 100 กว่าบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะมีวิธีการต่างๆ นานา ชักชวน ให้จับสลากชิงรางวัลเครื่องมือช่างไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาแพง ฟรี สว่านไฟฟ้า เลื่อย เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ไมโครเวฟ แม้กระทั่งรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นเการนำมาตั้งโชว์หลอกเท่านั้น มีเพียงเครื่องเสียงยี่ห้อ เอพีเอ็ม. ที่ตั้งราคาโชว์ไว้ที่ 76,900 บาท แต่ราคาจริงเพียงไม่ถึง 3,000 บาท เมื่อผู้ซื้อจับได้รางวัลก็จะต้องเสียภาษีเองจำนวน 38 เปอร์เซ็นต์ รวมเป็นเงิน 28,000 บาท ซึ่งล่าสุดทราบว่านายรณิศร์ มนต์ไชยะ อายุ 60 ปี ข้าราชการบำนาญ อยู่บ้านเลขที่ 62/1 หมู่ 2 ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองสุพรรณบุรี ถูกชักชวนจนเสียเงินไปกว่า 30,000 บาท

"กระบวนการก็จะมีการชักชวนจูงใจต่างๆ นานา ให้ชาวบ้านหลงเชื่อ แต่เมื่อนำกลับไปบ้านกลับใช้งานได้ไม่สมราคา เมื่อชาวบ้านมาขอคืนสินค้าก็ได้รับการไม่ยอมคืน ซึ่งจากการตรวจสอบพบสลากที่นำมาให้ลูกค้าจับมีเพียงรางวัลเป็นเครื่องเสียงอย่างเดียว อย่างอื่นไม่มีเลย ถือเป็นการทุจริตชาวบ้าน หลังตรวจสอบได้ให้นำตัวพนักงานของบริษัททั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี สอบสวนเพิ่มเติม ก่อนแจ้งข้อหาฉ้อโกงต่อไป"

วันอังคารที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2558

วิธีดูแลรถเบื้องต้นแบบง่ายๆ

รถใครใครก็รักจริงไหมคะ ถึงแม้ว่าทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เราต้องนำรถไปตรวจสภาพก็ตาม แต่บางครั้งมันก็มิวายเกิดปัญหาจุกจิกระหว่างที่เราใช้ ดังนั้นถ้าเรามีวิธีดูแลรักษารถและหมั่นคอยตรวจสอบ บางปัญหาอาจจะไม่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการถนอมรถที่เรารักให้มีสภาพที่ดีด้วยค่ะ เพื่อความไม่ประมาท เราจึงมีวิธีการดูแลรักษารถเบื้องต้นแบบง่ายๆฉบับคนรักรถมาแนะนำกันค่ะ

     1.การตรวจลมยาง ตรวจง่ายๆด้วยสายตาว่ามันอ่อนหรือเปล่า ดูทุกเส้นนะคะ เพราะถ้าลมยางของแต่ละล้อไม่เท่ากันจะมีผลต่อการทรงตัวของรถ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และทำให้อายุของยางสั้นลงดังนั้นควรใช้ปั๊มลมเติมยาง และตรวจเซ็คบ่อยๆ

     2.ตรวจดูรอยหยดรั่วของน้ำและน้ำมันต่างๆ ใต้ท้องรถ ถ้าพบว่ารั่วที่ล้อและเป็นน้ำมันเบรก จะต้องงดใช้งาน รีบปรึกษาช่างทันทีค่ะ ถ้าเป็นน้ำระบายความร้อนรั่วหยดให้หาที่มาของการรั่ว ส่วนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือน้ำมันเฟืองท้าย ก็ควรรีบปรึกษาช่างเช่นเดียวกันค่ะ เพื่อความปลอดภัยต่อกลไกดังกล่าวของรถยนต์ค่ะ


     3.การดูแลน้ำระบายความร้อน เพียงตรวจโดยการเปิดฝาหม้อน้ำออกถ้าพบว่าน้ำพร่องน้อยลงไปก็ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปให้เต็ม ถ้ามีขวดพลาสติกที่เก็บน้ำอยู่และมีท่อเล็กๆ ต่อไปถึงหม้อน้ำ ก็ไม่ต้องเปิดฝาหม้อน้ำค่ะ ให้ดูระดับน้ำที่ขวดเก็บน้ำสำรองแทน เพราะเรื่องนี้ก็ละเลยไม่ได้ค่ะ อาจส่งผลให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็วได้นะคะ


     4.ระดับน้ำมันเครื่อง เพราะถ้าน้ำมันเครื่องพร่องหรือแห้งจะทำให้เกิดการสึกหรอภายในเครื่องยนต์ โดยดึงเหล็กวัดออกมาเช็ดทำความสะอาดแล้วใส่กดลงไปยังตำแหน่งเดิมให้สุด จากนั้นดึงออกมาตรงๆในแนวดิ่ง ระดับน้ำมันจะสังเกตได้จากรอยคราบน้ำมันที่เกาะอยู่ปลายเหล็กวัด ซึ่งระดับน้ำมันจะต้องอยู่ระหว่างกลางขีดที่มีอักษร L(Low) และ F(Full)

     5.การตรวจน้ำเบรกในกระบอกเก็บน้ำมันเบรกที่แม่ปั๊มเบรก ถ้ามีระดับสูงก็ไม่ต้องเติมค่ะ แต่ถ้าพร่องต่ำกว่าขีดที่กำหนดให้เติมจนได้ระดับที่ถูกต้อง เพราะถ้าน้ำมันเบรกนั้นพร่องมากๆทุกวัน จะต้องรีบนำรถไปปรึกษาช่างนะคะ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายกับเจ้าของรถและผู้ขับขี่บนท้องถนนด้วยค่ะ

     เพียง 5 ข้อที่แนะนำไปเราก็สามารถยืดอายุการใช้งานของรถที่เรารักได้แล้วนะคะ อีกทั้งเป็นวิธีที่ตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง เพราะถึงแม้ว่ารถของเราจะเป็นรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง พวกเขาก็ต้องการการดูแลและเอาใจใส่ไม่ต่างกัน